iTime

Sunday, June 8, 2014

@^^ทำซูชิครั้งแรกในชีวิต + เดินเที่ยวห้างใหม่ในเมืองกรุงเทพฯ^^Sushi By Me & The New Luxury Shopping Mall In Bangkok^^@

08 June 2014
Time 22:09LT
@ FlyawayMinee's House
Temp 30C, Mostly Cloudy.


6 June 2014
"ทำซูชิครั้งแรกในชีวิต"

วันหยุดนี้ถือศีลอดชดเชยเป็นวันสุดท้าย
กำลังคิดเมนูแปลกใหม่ที่อยากจะลองทำเองดู
และแล้วก็มีความตั้งใจแน่วแน่มากๆ ที่จะทำซูชิให้ได้
หลังจากที่จัดการงานบ้านเสร็จเรียบร้อย ให้มิคาอิลได้นอนกลางสักแปบ
บ่ายสามโมงกว่าๆ ก็ขับรถไปซื้อข้าวของอุปกรณ์ทำซูชิที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้าน
ได้ของมา (เกือบครบ) คิดว่าซื้อของครบนะ แต่ดันลืมหัวใจสำคัญของซูชิจนได้
มินีลืมซื้อ วาซาบิกับซอสโซหยุ อ่า *____*'
ดีที่นึกได้ทัน โทรหาคุณสามีให้แวะซื้อมาให้ก่อนกลับจากที่ทำงาน


@ วัตถุดิบของการทำซูชิ @


ยืนงงกับวัตถุดิบไปสักพักใหญ่ๆ เพราะไม่รู้จะเริ่มยังไงดี
พยายามจำที่น้องชายที่เป็นเชฟอาหารญี่ปุ่นสอนทางโทรศัพท์ได้
เลยเรียบเรียงกระบวนการความคิด แล้วก็เริ่มทำกันเลย
มินีมีเวลาอีกแค่ 1 ชั่วโมงจะละศีลอดแล้ว ต้องรีบทำด่วน
ไม่งั้นไม่มีอาหารไว้สำหรับแก้ศีลอดแน่ๆ
เริ่มจากหุ้งข้าว ซาวข้าวญี่ปุ่น แล้วก็หุ้งเหมือนหุ้งข้าวปรกติเลยค่ะ
ระหว่างที่รอข้าวสุข ก็มาเตรียมหั่นวัตถุดิบอื่นๆ ไว้พล่างๆก่อน
ทั้งอโวกาโด ปูอัด แตงกวา เต้าหู้ มายองเนส ปลาทูน่า
มีอะไรก็เอามาเตรียมไว้ก่อนเตรียมเสร็จแล้วก็หันมาผสมน้ำส้มสายชู
เพื่อผสมลงในข้าว นีใช้น้ำ Apple Cider เพราะกลิ่นหอม
ใส่น้ำตาลเกลือผสมด้วยให้รสชาติเปรี้ยวหวานเค็มนิดหน่อย



@ ผสมน้ำส้ม @


ข้าวสุกแล้วก็ผสมน้ำส้มลงในข้าว ตอนที่ผสมก็ไม่ได้ลองชิม เพราะยังถือศีลอดอยู่
ก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อย กังวลเหมือนกันนะกลัวข้าวจะเปรี้ยวเกินไป
ผสมเสร็จ ก็ได้เวลาลงมือม้วนซูชิแล้ว มิคาอิลนั่งเป็นกำลังใจให้มามาข้างๆ
ตั้งใจดูมามาทำมากว คงสงสัยว่ากำลังจะทำอะไร มิคาอิลไม่เคยเห็น
มินีจำวิธีการม้วนมาจากน้องชายที่เคยสอยม้วนทาง Social Cam
มินีม้วนสองแบบ แบบแรกคือ มากิซูชิ Maki Sushi สาหร่ายอยู่ชั้นนอก
และแบบที่สองคือ แคลิฟอร์เนีย มากิซูชิ California Maki Sushi 
แบบที่สองทำค่อนข้างยากคือข้าวอยู่ชั้นนอก สาหร่ายอยู่ด้านใน
ทำชิ้นแรกก็ตั้งใจสุดๆ พยายามม้วนให้แน่นๆ ออกมาสวย มิคาอิลตบมือชอบใจใหญ่


 @ มากิซูชิ Maki Sushi @


 @ สวยๆๆ @


 @ แคลิฟอร์เนีย มากิซูชิ California Maki Sushi @

พอหั่นออกมาแล้ว สวย ถูกใจมากๆ
แต่ยังไม่ได้ลองกินนะ รอเวลาอีกแปบนึงก็จะได้ลองชิมแล้ว
รสชาติจะอร่อยหรือป่าว? จะได้กิน หรือจะโยนลงถังขยะ?? ลุ้นๆ
แต่น่าตาถือว่าสอบผ่าน ตัดสินเองเลยค่ะ อิอิ














 @ อีกแบบทำ มากิซูชิ Maki Sushi แต่ตั้งแนวนอน
แล้วก็แต่งไข่กุ้งกับสาหร่ายให้สวยๆ @


หลังจากได้เวลาละศีลอดแล้ว ลองชิมคำแรก อืมมม!!
รสชาติข้าวอร่อยมากๆ 
ไม่เปรี้ยว ไม่เค็มเกินไป หวานนิดหน่อย กำลังดีเลยที่เดียว!
เสร็จแล้วก็ไปทำซุปมิโซะ ง่ายๆ มันมีเครื่องแกงซุปมิโซะขายตามห้างอยู่แล้ว
ต้มน้ำรอเดือด ใส่เครื่องแกงซุปลงไป มินีใส่ปลาแซลมอนลงไปด้วย
เพิ่มรสชาติหวานของน้ำซุปจากเนื้อปลาแซลมอน
ใส่เต้าหู้ สาหร่าย รอเดือดอีกแปปนึง ก็ปิดไฟ พร้อมกินแล้ว


@ ครบชุด @

ปลื้มมากที่ทำออกมาทั้งน่าตาและรสชาติของซูชิ
สวยและอร่อยถูกปากทั้งเราและสามี
มิคาอิลกินแต่ซุป เพราะยังกินซูชิยังไม่เป็น
ตอนนี้ก็ไม่ต้องง้อร้านซูชิแล้ว อยากกินก็ทำกินเองเลย
อร่อย สะอาด ถูกใจ ทุกคนในบ้าน




7 June 2014
ไปเที่ยวห้างใหม่ไฮโซใจกลางเมืองกรุงเทพฯ

ได้หยุดตรงกันกับคุณสามีหนึ่งวัน เลยมีแพลนอยากไปเที่ยวห้างใหม่
ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี่เอง ตอนแรกสามีทำทางอิดออดไม่ค่อยอยากไป
แต่ก็ใจแข็งได้ไม่นาน มินีอ้อนจนสำเร็จ จนต้องยอมตามใจ อิอิ

มื้อเช้าวันนี้ทำอาหารง่ายๆ แต่อร่อย ถูกใจคุณสามีอีกแล้ววว!
เพิ่งจะรู้ว่าสามีก็ชอบกินอโวกาโด ไม่คิดว่าว่าเขาชอบทาน
เลยไม่เคยซื้อมากินกันเลย อโวกาโดนี้เหลือจากการทำซูชิเมื่อคือน
เอามาหั่นทานเป็นอาหารเช้า กับขนมปังปิ้ง สลัดผัดก็อร่อยดีนะค่ะ
มีประโยชน์ และคุณค่าทางอาหารสูงมากๆ


@ มื้อเช้าอร่อยๆ @


หลังเที่ยงก็เตรียมออกจากบ้านไปเที่ยว Central Embassy
ห้างใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว อยู่ติดกับ Central Chidlom
ด้วยความที่ไม่ค่อยได้ขับรถไประแวกนั้น ที่ไปบ่อยๆ ก็จะเป็น Central World
ถ้าจะไปนอกเหนือจากนี้เราจะเดินกับรถไฟฟ้าซะส่วนใหญ่
วันนี้คุณสามีเลยตัดสินใจไปจอดรถที่พารากอน
ทั้งๆที่มินีบอกให้ลองขับไปจอดที่ห้างเขาเลย
เขาก็กลัวไปไม่ถูก เพราะถนนแถวนั้นมันจะวันเวย์ซะส่วนใหญ่
เลยตามใจคุณสามี แต่หารู้ไม่ ที่พารากอน ที่จอดรถเต็มหมดทุกชั้น
วนตั้งหลายรอบกว่าจะได้จอด ถ้าขับรถไปที่ Central Chidlom ก็ถึงนานแล้ว :(

ได้ที่จอดรถก็เดินไปที่สถานีรถไฟฟ้า เพื่อจะนั่งรถไฟฟ้าต่อไปยังสถานีชิดลม
Central Chidlom มีทางเชื่อมต่อไป Central Embassy เดินออกไปทางด้านหลังของห้าง
ถึงสักทีนะ ห้างไฮโซที่เราอยากมาดูว่ามันเป็นยังไงเนี่ย!





@ ทางเชื่อมระหว่างห้างเซนทรัลทั้งสอง @


@ มีการแสดงระบำสเปนพอดี สาวๆ สวยด้วย @





@ ตัวอาคารออกแบบได้โมเดิร์นมาก @

ได้ลองเข้าห้องน้ำ โอ้โฮ ไฮโซสุดๆ มีระบบแบบญี่ปุ่น แต่เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ
แทบจะถือดิชชั่นนารี่เข้าห้องน้ำกันเลยที่เดียว *__'


@ เด็กซนมาเที่ยวห้างใหม่ @

ร้านค้าแบรนด์เนมดังๆ จากเมืองนอกมาเปิดเยอะมาก
ราคาคงไม่ต้องพูดถึง เพราะเราไม่มีความสามารถจะซื้อมาใช้ได้แน่ๆ
ถ้าได้รางวัลจากฝาโออิชิก็คงไม่แน่ จะเข้าไปซื้อมาสักใบสองใบให้ดูเลย อิอิ

มีร้านนึงอยากเข้ามาก Harrods มีทั้งสินค้าดังๆที่มีชื่อ แล้วก็ Cafe' นารักๆ
อยากนั่งทานมาก แต่คุณสามีเล็งๆร้านกาแฟตรงระหว่างทางเชื่อมที่จะมาถึงห้างแล้ว
เขาเลยชวนไปนั่งที่ร้านนั้น ร้านนี้ออกแนวน่ารักๆ สามีเราไม่น่ารัก อดนั่งกินเลย
แต่ถึงแม้ไม่ได้เข้าไปนั่งทาน ขอถ่ายรูปกับพี่หมี Harrods สักหน่อยนะ


@ Harrods Tea Room @

เดินสำรวจทุกชั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรกับห้างอื่นๆ แค่ที่นี้มีร้านแบรนด์เนมดังๆ เยอะ
มี Cafe' เก๋ๆ น่านั่งหลายร้าน แต่ส่วนตัวแล้วชอบที่ Central World มากกว่า
อาจจะเป็นเพราะห้างนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ได้ ถ้าเสร็จสมบูรณ์คงจะน่าเดินมากกว่านี้

หลังจากเดินจนเมื่อย เลยชวนคุณสามีไปนั่งทานกาแฟที่ Cafe' ที่เซนทรัลชิดลม
มิคาอิลจะได้แวะเข้าห้องน้ำ แล้วก็ทานขนมอร่อยๆ ด้วย











@ ของเราสองคน สั่งเหมือนกัน ชอบเหมือนกัน @


@ ขนมของมิคาอิล
แต่มิคาอิลก็มาแย่งครัวซองค์ของมามากินซะงั้น @


@ ทำหน้าเซ็งๆ จะกินขนมของมามาอ่า @


ทานเสร็จก็นั่งรถไฟฟ้ากลับไปพารากอน เดินซื้อของนิดหน่อย
ก็ขับรถกลับบ้าน วันนี้เหนื่อย เดินเยอะ ดีนะ ชอบๆ นึกถึงที่เมลเบิร์นเลย
อยากเดินเยอะๆ แบบนี้ทุกวัน น้ำหนักจะได้คงที่ ไม่กลับไปอ้วนเหมือนเมื่อก่อน


เป็นอีกหนึ่งวันหยุดที่มีความสุขมากๆ ของครอบครัวเรา
ได้ใช้ชีวิต เดินเล่น พูดคุยด้วยกัน แค่นี้ก็สุขใจแล้ว




มีความสุขในทุกๆ วันนะค่ะ





No comments: