iTime

Sunday, February 8, 2015

@^^เรื่องเล่าคนใต้ปีก ณ โรยัล ตอนที่ 3 "@^^เรียนเป็นพนักงานอำนวยการบินแบบเต็มตัว^^Going To Be A Flight Operation Officer & Flight Dispatcher, "Wind Beneath The Wings Eps #3^^@

8 Feb 2015
Time 21:30LT
@ FlyawayMinee's House
Temp 27C



10 Sep 2007 - 30 Nov 2007
Flight Operation Officer & Flight Dispatcher Course @ CATC

วันแรกที่ไปนั่งเรียน โดนจับนั่งหลังห้องสุดเลย
กับเพื่อนต่างวัยชาวมาเลเชียที่มาจากแอร์เอเชียส่งมาเรียน
ตื้นเต้นมากนะ ต่อไปนี้ตลอด 3 เดือนของการเรียนต้อง Speak English ค๊า
พี่ปู หรืออาจารย์ปู Course Course Director มาคุยด้วย พี่ปูเป็นรุ่นพี่พี่อาท ATC ที่ สบพ
จำได้ว่าพี่ปูออกแนวขู่ๆว่า เรียนหนักมากนะ ต้องตั้งใจเรียนมากๆ
จริงๆแล้วพี่ปูไม่ได้ขู่เลย มันหนักจริงๆ สำหรับมินีที่ไม่เคยเรียนด้านการบินมาก่อน
ที่ทำงานไปก็อาศัยลักจำ ฟังเขามาบ้าง หาข้อมูลเองบ้าง แต่รู้ไม่จริงไง
สมองตอนนั้นมีแต่ความว่างเปล่าเรื่องการบิน
การที่พี่ปูมาพูดแบบนี้ มันทำให้ต้องมินีได้ขยันมากกว่าคนอื่น
เพื่อนๆ ในชั้นเรียนส่วนมากเป็นเด็ก ATC และเพื่อนๆ ต่างชาติก็เป็นนักบินบ้าง
เป็น Flight Dispatcher มาแล้ว แต่ต้องมาเรียนเพื่อเอา Certificate
ส่วนพี่ๆ คนอื่นก็มีมาจาก Aerothai, การท่าฯ ซึ่งล้วนแต่มีความรู้ความสามารถกันทั้งนั้น
ในการเรียนแต่ละวิชา หลังเรียนวิชานั้นจบ ก็สอบเลย รู้ผลเลยว่าสอบผ่าน หรือตก
วิชาแรกที่สอบคือ Rule of The Air กฏหมายการบิน วิชาแรกสอบผ่าน เย้ๆๆๆ
วิชาต่อมาคือ หลักการการบิน ประมาณว่าเป็นวิชาที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวการ
หลักการที่ทำให้เครื่องบินได้ ประกอบด้วยปัจจัยอะไรบ้าง แต่วิชานี้ มินีทำพลาด
สอบตก มีตกหลายคน แต่ยังงงว่าตอบคำถามตรงไหนไม่ถูก เพราะมั่นใจว่าทำได้
จนพี่ปูเดินมาบอกว่า ต้องตั้งใจมากกว่านี้นะ วิชาต่อๆไปมันยากมากกว่านี้เยอะ
วันนั้นนอยด์มาก ไม่เคยสอบตกเลย เรียนรามฯยังไม่เคยซ่อมด้วยซ้ำ เครียดมาก
แต่ก็ฮึดสู้ เราต้องทำให้ได้สิ มานั่งคิดว่าอะไรทำให้เราทำผิดพลาด ทบทวนจนพอรู้สาเหตุ
คือ นั่งหลับตอนเรียน ด้วยความที่นั่งหลังห้อง เพื่อนมาเลข้างนั่งหลับ มินีก็มีเผลอหลับบ้าง
หลังจากนั้น มินีขอย้ายที่นั่งไปนั่งกับน้องเหน่ง หน้าห้อง
เหน่งเรียนจบ ATC เป็นคนเก่ง กลุ่มน้องเหน่งเก่งทุกคน
อะไรที่มินีเรียนแล้วไม่เข้าใจ มินีถามน้องๆ น้องๆก็ช่วยเหลือดีมาก
มินีเกาะกลุ่มนี้เหมือนปลิง ตั้งใจทำการบ้าน กลับมาบ้านก็นั่งอ่านหนังสือ มีทบทวน
และมีการสอนทำแบบฝึกหัดทาง MSN จนดึกดื่น มาเรียนก็ตั้งใจเรียนมากๆ
หลังจากนั้นคะแนนสอบก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีตกอีกแล้ว
ยอมรับว่ามีลอกบ้าง เป็นเรื่องปรกติเนอะ (หรือป่าวหว่า??)


 @ จดๆ @


@ มาดูเครื่องยนต์เครื่องบิน @



@ วิชา Navigation @





@ ทำแบบฝึกหัด  ขยันจริงๆ @


@ เรียนการออก NOTAM @

ระหว่างที่เรียนมีดูงานนอกสถานทีด้วยนะค่ะ Area Control,
VTBS Tower และที่กรมการบินพลเรือน ไปต่างจังหวัดด้วยนะ










ตั้งแต่ที่เรียนมาตลอด 3 เดือน วิชาที่ยากมากก็คงไม่หนีไม่พ้น
Aircraft Performance, และ Flight Planning
แต่พวกเราก็ผ่านมาได้ ช่วงสอบก็พยายามทำกันสุดๆ ฝีมือ ลอกกันสนุกเลย
จริงๆ แล้วเรียกว่าช่วยกันปรึกษาหารือกันมากกว่านะลอกจะดีกว่าเนอะ ฮี่ๆๆ

และแล้ว 30 November 2007 เราก็เรียนจบจนได้
รับใบประกาศ ทุกคนหน้าตาชื่นมื่นมาก ดีใจมาก เหนื่อยกันมาเยอะ
แต่ก็เศร้าใจที่ต้องจากกัน มันช่างเร็วเสียจริงๆ












 @ สี่สาว จาก K-Mile สมัยนั้น น้องๆเก่งหมดทุกคน @
ตอนนี้ต่างคนต่างแยกย้ายทำงานกันคนละที่ แต่ก็ยังมีติดต่อทาง Facebook อยู่นะ


 @ พี่ปู Course Director คนสวย @


@ สำเร็จอีกขั้น @

หลังจากเรียนจบ แต่การอ่านหนังสือยังไม่จบนะค่ะ
เพราะมินี พี่ติ๋ม น้องๆ และเพื่อนต่างชาติ ต้องสอบ Licence ต่อ
ช่วงเดือนธันวาคม 2007 หลังจากเรียนจบ
การสอบจะมีขึ้นประมาณวันที่ 25 ธันวาคม 2007
และเป็นวันที่แผนก Operation ของเราเป็นแม่งานจัดงานเลี้ยงปีใหม่
โชคดีที่มินีมีแอปเปิ้ล แพทตี้ คอยช่วยประสานงาน
ในขณะที่มินีก็ยุ่งกับการสอบ

แต่ก่อนจะสอบยังมีอีกหนึ่งภาระกิจที่ต้องทำ ซึ่งเป็นภารกิจแรก
หลังจากกลับมาจากเรียนคือ ต้องร่วมเดินทางเพื่อไปประสานงาน
กับผู้บริหาร Big C ตลอดการเดินทางโดยเครื่องบิน Private Jet
เล่าที่มาก่อน คือ ทางผู้บริหาร Big C ท่านมาเรียนบินที่บริษัทอยู่แล้ว
และมีเช่าเครื่องของบริษัทบินเดินทางไปตรวจโรงงานตามต่างจังหวัดบ่อยๆ
แต่รอบนี้ Big C เปิดสาขาที่ประเทศเวียดนาม และต้องการบินไปตรวจ
เลยให้ทางบริษัทฯ เราติดต่อเครื่องบินเจ็ทเช่าเหมาลำไปเวียดนาม
สมัยนั้นไม่มีเครื่องบินเจ็ทในประเทศไทย เลยติดต่อจากต่างประเทศ
มาลงเอย เครื่องจากบริษัท Jet Asia ที่มีฐานการบินอยู่ที่มาเก๊า
ทาง Big C ก็ต้องการให้บริษัทเรามีคนบินไปด้วยเพื่อประสานงานจนจบทริป
เจ้านายเลือกให้มินีทางในครั้งนี้ โชคดีที่มินีรู้จักพี่นักบินที่บินในไฟล์ทนี้
แต่จริงๆแล้วพี่นักบินคนนี้เขาไม่ได้บินเครื่องแบบนี้แล้ว
แต่พี่เขาก็อุตสาห์แลกตารางบิน พร้อมกับทำเอกสารใหม่
เพื่อที่จะสามารถบินเครื่องบินรแบบนี้ได้อีกครั้ง และร่วมเดินทางไปด้วยกัน
พี่เขาเป็นคนไทย มีเชื้อสายเยอรมันนะ ถ้าจำไม่ผิด ใจดีมาก
ดูดี สุภาพ อ่อนโยน น่ารักมากๆ
มินีต้องเดินทางไปมาเก๊าล่วงหน้า 1 วัน
เพื่อที่วันรุ่งขึ้นต้องบินมากับเครื่องบินเข้าดอนเมือง
แล้วรับผู้บริหาร Big C ที่ดอนเมืองอีกครั้ง
ทรปที่มินีบินทั้งหมมดคือ
Macau - Donmueang - Chiang Mai - Hanoi - Hochiminh - Suvannaphumi
ทั้งหมด 5 วัน 4 คืนกับทริปนี้ สนุกมาก เหมือนได้เที่ยวด้วยเลย

ทำไมมินีต้องเดินทางไปเมาเก๊า แล้วบินมากับเครื่องลำนี้?
ด้วยกฏหมายการบินไทยในขณะนั้น จะไม่อนุญาตให้เครื่องบินสัญชาติอื่น
ที่ไม่ได้เป็นเครื่องที่บินแบบตารางการบิน (Schedule ) บินมารับคนไทยออกไปต่างประเทศ
เว้นแต่มีคนไทยบินตั้งแต่ต้นทาง คือ มาเก๊า แล้วร่วมบินตลอดจนจบทั้งทริป
มินีเลยต้องนั่งมาจากมาเก๊าตั้งแต่แรกจนจบทริป
กฏหมายไทยอ้างว่าเพื่อเป็นการรักษาสิทธิแก่เครื่องอื่นๆ ที่มีตารางการบินในเมืองๆ นั้น
แต่เดี๋ยวนี้ กฏหมายนี้ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว


 @ Challenger 601 @


 @ เดินเที่ยวมาเก๊าคนเดียว @

พี่นักบินมารับมินีกับพี่อาทที่สนามบิน
แล้วพาไปส่งที่โรงแรม อุตสาห์เขียนแผนที่ว่าจะเข้าเมืองยังไง
พี่นักบินบอกให้ไปรอพี่เขาในเมืองใกล้ตรงประตูโบสถ์
พี่เขาจะพาไปเจอกลุ่มลูกเรือที่จะต้องเดินทางไปร่วมทริปนี้


 @ ลูกเรือของ Jet Asia @

พี่เสื้อขาวเป็นคนไทยนะค่ะ แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว

เช้าตรู่ของมาเก๊า ตีสี่ ต้องตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวพร้อมร่วมบินเดินทางไปดอนเมือง
พี่นักบินแวะมารับที่โรงแรมเหมือนเดิม เช้ามาก ยังง่วงอยู่เลย
นั่งบนเครื่องก็ไม่ค่อยได้กินอะไร ไม่หิว เดินไปมา สำรวจเครื่อง เล่นนู้นนี่นั้น
ถ่ายรูปบ้าง คุยเล่นกับแอร์บ้าง กัปตันบ้าง
ไฟล์ทนี้มี Capt. วันชาติ พี่แวน เป็น PIC, FO. Joe FA. Roda
น่ารักทุกคน กันเองสุดๆ แบบนี้เราก็ทำงานกันง่ายขึ้นมากๆ






ถึงดอนมเืองก็รอรับผู้โดยสารเดินทางไปเชียงใหม่ต่อ
ที่เชียงใหม่จะมีแพทตี้คอยประสานงานอยู่ที่นั้น
รู้สึกว่าเป็นงานต่างจังหวัดงานแรกของแพทตตี้
โดนผู้โดยสารเล่นซะ! ไม่รู้ว่ายังจำอยู่มั้ย?
แต่มินีจำได้นะ แต่ไม่ขอลงรายละเอียดละกัน


 @ แพทตี้ น้องใหม่ของ Royal สมัยนั้น @

นอนเชียงใหม่หนึ่งคืน แล้วบินไป Hanoi ค้าง Hanoi หนึ่งคืน
ที่ฮานอยได้รู้จักผู้บริหารบริษัทที่ทำ Ground Handling
ทำให้เราก็ได้ใช้บริการเขามาจนถึงปัจจุบันนี้
การเดินทางครั้งนี้ ถือว่าเป็นประโยชน์มากๆ



เมืองฮานอย สวยดี สวยกว่า โฮจิมินทร์ มีทะเลสาบใจกลางเมือง
แต่ไม่ค่อยได้เที่ยวไรมาก เพราะต้องรีบกลับมาติดต่องานต่อ


จากฮานอย บินไปโฮจิมินทร์ต่อ ค้างอีกหนึ่งคืน
ก่อนบินกลับไทยโดยเครื่องลงจอดที่สุวรรณภูมิ


@ ทีมที่ทำงานสุวรรณภูมิ @


เป็นทริปที่ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ได้เรียนรู้หลากหลายอย่าง
แม้จะมีปัญหาระหว่างการเดินทาง มินีรับมือได้ แก้ไขได้ แล้วก็ทำงานได้บรรลุผล



25 December 2007
New Year Party + Flight Dispatcher Licensing Examination (Writing Part)

มีสอบข้อเขียนขอใบอนุญาตพนักงานอำนวยการบิน ที่กรมการบินพลเรือนทั้งวัน
ในขณะที่งานปาร์ตี้ก็ต้องจัดเตรียม ช่วงเช้าก็เลยต้องให้แอปปิ้ลกับแพทช่วยดูให้


@ เตรียมตัวสอบ ท่องหนังสือกันน่าดู @

ทำข้อสอบได้ทุลักทุเลมาก ทั้งเช้าและบ่าย
ทำข้อสอบไม่ทันด้วยนะ ทำใจไว้แล้วว่าคงตก และคงต้องสอบอีกรอบแน่ๆ
แต่ที่ไหนได้ หลังจากนี้สองสัปดาห์ ประกาศผลสอบ มินีผ่านข้อเขียนรอบแรกหมดทุกวิชา 
พร้อมๆ กับน้องๆ Sonam และพี่ติ๋ม ต่อไปก็ลุ้นต่อว่าสอบ Oral Test จะผ่านมั้ย?

วันสอบช่วงบ่ายรีบทำข้อสอบ เพราะต้องรีบกลับไปเตรียมงานเลี้ยงปีใหม่ต่อ
งานปีใหม่จัดขึ้นที่โรงแรมอมารีแอร์พอร์ท
เป็นงานเลี้ยงที่สนุกมากๆ แม้รางวัลจะไม่เยอะ แต่เป็นงานที่สนุกมากจริง

ธีมงานจะเป็น White & Blue Party ชาวโรยัลฯ ฟ้า-ขาว
เน้นให้ผู้ร่วมงานแต่งกายฟ้า-ขาวร่วมงาน น้องแพทสวยมาก
แอปเปิ้ลก็น่ารัก จำได้ว่า ในวันนั้นมีไฟล์ทที่ต้องทำด้วยนะ
แพทตี้กับแอปเปิ้ลวิ่งไปทำไฟล์ทโดยแต่งชุดนี้ไปเลย ฮามากๆ
ทำไฟล์ทเสร็จ ก็กลับมาร่วมงานเหมือนเดิม แผนกเราต้องทรหด อดทนสุดๆ





 @ การแสดงเปิดงาน @
สวยๆ


 @ ผู้บริหาร Big C สมัยนั้น ก็มาร่วมงานด้วย @


@ ทุกคนสนุกมาก ๆ @

งานเลี้ยงจบลงด้วยดี ทุกคนแฮปปี้มาก งานสนุกมากๆ
เป็นปีที่ดีที่สุดอีกปีนึงของมินีเลย



เอนทรี่หน้า ตอนที่ 4 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของชีวิต
ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ไว้จะมาเล่าให้ฟังนะค่ะ

วันนี้ ขอบคุณทุกๆ คนที่มีส่วนร่วมในชีวิตมินี

มีความสุขในทุกๆ วันนะค่ะ







No comments: