iTime

Saturday, July 26, 2014

@^^ฟรุตทาร์ตน่ารักๆ มาแล้วจ้า^^Homemade: Lovely Fruits Tart By Me, I Can Made, You Can Make!^^@

26 July 2014
Time 05:20LT
@ FlyawayMinee' House
Temp 29C


วันนี้ตั้งใจจะเข้ามาบันทึกเรื่องทำขนม ก่อนที่จะขึ้นเครื่องเดินทางกลับนราธิวาส
ตื่นเต้นทุกครั้งจริงๆ เวลาจะกลับบ้านที่นราธิวาส จัดกระเป๋าไม่ถูกเลย จะเอาอะไรกลับบ้าง
ตลกดีเหมือนกันเนอะ จะไปที่ไหน ยังไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้เลย



24 July 14
ทำขนม Fruits Tart ครั้งแรก
เป็นขนมที่ฝันอยากทำมานาน ชอบตรงความน่ารักของเขา
และผลไม้ที่มินีชอบทาน เสร็จออกมา สวย น่ารักมากๆ 




มาเริ่มกันเลยนะ
การทำจะแบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนของแป้งทาร์ตกรอบ กับครีมทาร์ต
มินีได้สูตรจากยูทูป เลือกสูตรที่คิดว่าทำได้จริงๆ ไม่ยาก 
และเอาเทคนิคการทำของหลายๆ คน มาดัดแปลงเองด้วย

แป้งทาร์ต ก็จะมีส่วนประกอบ คือ 
แป้งเค้ก, น้ำตาลไอซิ่ง, เนยที่อุณหภูมิห้อง, ไข่ไก่ เกลือ

ครีมทาร์ต ก็จะมีส่วนประกอบ คือ
นมสด, ไข่ไก่, น้ำตาล, แป้งสาลีเอนกประสงค์, แป้งข้าวโพด, กลิ่นวานิลา
(อัตรส่วน ใครสนใจถามเข้ามาได้นะค่ะ)


มาทำแป้งทาร์ตกันค่ะ
เอาแป้งกับเนยมาคลุกให้เข้ากัน อย่าใช้ฝ่ามือนวดนะ ใช้ปลายนิ้ว
หรือบ้านใครมีที่บดเนยทำพายก็เอามาใช้ได้ 
สาเหตุที่ไม่ให้ใช้ฝ่ามือเพราะอุณหภูมิในร่างกายเรา จะทำให้เนื้อแป้งนิ่ม และเหลวได้
แล้วตีไข่ใส่ลงไป และใส่น้ำตาลไอซิ่ง เกลือ คลุกให้เข้ากัน จนเป็นก้อน
เอาออกมานวดเบาๆ ให้เนียนและเข้ากัน


@ แป้งโดว์ทาร์ตของมินี @


จับแป้งเป็นก้อนๆ ขนาดที่สามารถแผ่ในพิมพ์ได้ 
กรณีเป็นพิมพ์เล็กๆ ถ้าเป็นถาดพาย 
ให้ใช้ไม้คลึงเป็นแผ่น แล้วเอามาวางบนพิม 
แล้วกดให้เรียบเสมอพิมนะค่ะ ใช้ส้อมกดให้ทั่วแป้ง ตามรูปเลยค่ะ










เสร็จแล้ว พักแป้งไว้ 30 นาที ก่อนเอาเข้าไปอบที่ไฟ 150-165 C ประมาณ 10-12 นาที


 @ อบเสร็จแล้ว @

อบเสร็จ พักให้เย็นก่อนที่จะตกแต่งด้วยผลไม้ ให้สวยๆ




ก่อนจะถึงขั้นตอนที่ตื่นเต้น
มาดูวิธีการทำครีมทาร์ตก่อนนะค่ะ

เอานมสดไปตั้งไฟอ่อนคนจนเดือด
เตรียมถ้วย ใส่ไข่น้ำตาล ตีให้เข้ากัน
ใส่แป้งสาลีเอนกประสงค์และแป้งข้าวโพดตีให้เข้ากันเลยนะค่ะ
แล้วเอานมที่เดือดมาเทใส่ถ้วยไข่ที่เราตีไว้ ค่อยๆ เทและตีไปพร้อมๆกัน
แล้วเทกลับไปในหม้ออีกครั้ง คนบนไฟอ่อนจนเป็นเนื้อครีม ใส่กลิ่นวานิลาลงไป
คนจนเป็นเนื้อครีมแล้วยกออกจากเตา แต่ก็ยังจะต้องคนไปเรื่อยๆนะ จนเริ่มเย็น
เอาพาสติกมาแรพบนผิวของเนื้อครีม แรพให้ติดเนื้อครีมเลยนะ

ระหว่างที่รอให้ครีมเย็น เราไปหั่นเตรียมผลไม้ก่อนเลย จะได้ไม่เสียเวลา


 @ พร้อมตกแต่งแล้ว @

มินีใช้ถุงบีบใส่ครีมลงไป ตัดปลาย แล้วบีบลงไปบนแป้งเลยค่ะ


 @ ครีมเต็มๆ อร่อยๆ @

แล้วก็จัดผลไม้บนทาร์ตให้สวยๆ เลยนะ

ตะแด๊นนนน ตะแด๊นนนน ตะแด๊นนนน!!! 











@ จัดผลไม้สวยๆ เสร็จแล้ว @

แต่ยังไม่สวยพอ มันต้องแววๆ สินะ มินีทาด้วยแยมใสๆ 
ลงบนผลไม้ เคลือบให้มันดูเป็นเงาๆ สวยๆ น่ารักมากยิ่งขึ้นไปอีก

และแล้ว มันก็ออกมาสวยแบบนี้
v
v
v
v
v





 @ สวยงาม น่ารักที่สุด @










แต่ แต่มิคาอิลไม่ชอบกินครีม กินแต่ผลไม้กับแป้งทาร์ตแทน...มามาเศร้า T__T
วันที่มินีทำ มินีถือศีลอด เลยไม่ได้ชิม แอบกลัวๆ ว่าไม่อร่อย เพราะมิคาอิลไม่ยอมกินครีม





@ กูรูเรื่องรสชาด ต้องยกให้เขาเลย @

พอช่วงเย็น มินีกับสามีจะไปละหมาดที่ศูนย์กลางอิสลาม 
พี่ดา พี่ที่น่ารัก และทำอาหารเก่งมาก โพสมาว่าอยากลองชิม เลยเอาไปให้เขาชิม
ระหว่างทางรถติดมาก เลยต้องละศีลอดบนรถ คุยกับสามีว่า ขนมที่จะเอาไปให้ จะลองชิมก่อนมั้ย?
เพราะถ้าไม่อร่อยจะได้ไม่ต้องเอาไปให้เขา อิอิ แต่พอลองกัดคำแรกเข้าไป ฮืมมมมมม!
อร่อยอ่า น้ำตาจะไหล สามีขอกัดด้วย เขาก็ชมใหญ่ว่าอร่อยๆๆ
งานนี้เลยไม่ขายขี้หน้า เอาไปให้พี่ดาทาน แล้วมีฟีดแบคกลับมาว่าอร่อย ไม่หวานมาก พี่เขาชอบ
แอบดีใจที่พี่เขาเอ่ยปากชม อิอิ เพราะมินีเชื่อลิ้นพี่เขา

จริงๆ ก่อนหน้าจะทำขนม Fruits Tart นี้ มินีเตรียมทำ New York Cheesecake ไว้ด้วย
พอดีรับออร์เดอร์จากน้องที่ทำงาน เลยทำตามออร์เดอร์เป็นครั้งแรก กลัวๆ เหมือนกันนะ
กลัวจะออกมาไม่ดีเหมือนครั้งแรกที่ลองทำกินเอง

แต่ก็ออกมาสวยงาม เสร็จพร้อมส่งให้ลูกค้ารายแรกเลย








@ พร้อมส่งแล้วจ้า @

เลยตั้งใจจะรับทำตามออร์เดอร์แล้วนะค่ะ Fruit Tart ก็รับทำตามออร์เดอร์จ้า
ใครสนใจอินบอกมาได้เลยนะ ทั้งใน Facebook/zureeyanee หรือ IG/flyawayminee
หรือในกล่องคอมเมนท์ในบล็อกนี้นะค่ะ


ตีห้ากว่าแล้ว ขอตัวไปละหมาดก่อนนะค่ะ
เดี๋ยวก็ต้องเตรียมตัวไปสนามบินแล้วค่ะ


มีความสุขในทุกๆ วันนะค่ะ




Monday, July 21, 2014

@^^เมนูของหวานบลูเบอรี่นิวยอร์คชีสเค้ก & เมนูของคาวโรตีมะตะบะไก่และข้าวยำปักษ์ใต้^^Dessert Menu : Blueberry New York Cheesecake & Southern Menu : Chicken Roti Mataba and Khao Yum Pak Tai^^@

21 July 2014
Time 13:07LT
@ Hangar 4426
Temp 31C


19-20 Jul 14
รอมดอนเดินมาถึงคืนที่ 23 แล้ว เร็วมากๆเลย 
จำได้ว่าเพิ่งถือศีลอดไม่กี่วันเอง เวลาเดินเร็วเกินกว่าใจเราแล้วสินะ
ในเดือนที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ ร่วมส่งดุอาถึงพี่น้องของเรา
ที่กำลังทนทุกข์ทรมานที่กาซ่า ซีเรีย อียิปต์ และดินแดนต่างๆ ด้วยนะค่ะ

มีเมนูใหม่มานำเสนออีกแล้วค่ะ
พอดีวันนี้หยุดอยู่บ้าน หลังเล่น T25 เรียบร้อย ก็ชวนสามีไปเดินเล่นที่ห้าง
แวะซื้อของในซุปเปอร์นิดหน่อย สามีอยากกินข้าวยำ เลยไปหาซื้อเครื่องปรุง
และได้ทีเลย หาวัตถุดิบมาทำขนมด้วยดีกว่า อิอิอิ
วันนี้มินีจะลองทำขนม "บลูเบอรี่นิวยอร์คชีสเค้ก" ค่ะ


@ Blueberry New York Cheesecake @

ทำไมต้องเป็นนิวยอร์คชีสเค้ก คำตอบคือ ชีสเค้กสูตรอื่นๆ เขาไม่อบ 
อาศัยให้เขาเซตตัวด้วยการนำแช่ตู้เย็นเท่านั้น
แต่ด้วยส่วนผสมของครีมชีส มีไข่ผสมด้วย 
มินีรู้สึกว่ามันดิบเกินไปที่เราจะทานแบบไม่ทำให้สุก (คิดไปเอง)
เลยเลือกทำ New York Cheesecake เพราะมันต้องอบ โอเครป่ะ?


เรามาดูวัตถุดิบกันเลยว่ามินีใช้อะไรบ้าง

@ วัตถุดิบ @
(ในรูปถ่ายวัตถุดิบไม่ครบ บางอันก็ไม่ได้ใช้ จะเอาไปทำเมนูอื่น *___' )

แครกเกอร์, ครีมชีส, ไข่ไก่, น้ำตาล, เนยละลาย, เกลือนิดหน่อย
ซอสบลูเบอรี่, เลมอน , แป้งเอนกประสงค์, ซาวครีม, กลิ่นวานิลา
เครื่องตีผสมอาหาร, ถาดพายขนาด 8-10 นิ้ว

เริ่มด้วยการบดแครกเกอร์ให้ละเอียดนะค่ะ ใช้แครกเกอร์ 1 กล่องเลยนะ
ใส่เนยละลายลงไปผสม คลุกให้เข้ากัน เทใส่ถาดพาย 
บี้ๆให้แน่นทั่วถาด รวมถึงขอบๆ ถาดด้วยนะค่ะ
พักไว้ก่อน ไม่ต้องเอาเข้าตู้เย็นนะ ตั้งไว้ข้างนอกนี่แหละ

มาทำครีมชีสกันค่ะ
นำครีมชีส 2 ก้อนในอุณหภูมิห้อง หั่นชิ้นเต๋าไว้ ใส่ในถ้วยผสม
ใช้เครื่องตีผสมอาหารตีให้เนื้อครีมชีสเนียนละเอียด 
แล้วใส่ซาวครีม 1 ถ้วยตวงลงไป ตีเรื่อยๆ ใส่น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ ตีต่อเลย
ใส่แป้งเอนกประสงค์ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ ตีเรื่อยๆ ใส่ไข่ไก่ที่ละฟอง จนครบ 2 ฟอง
ตีต่อเรื่อยๆ เลยนะค่ะ ใส่ผิวเลมอน แล้วบีบน้ำเลมอนครึ่งลูกลงไป ตีต่อ
สุดท้ายใส่เกลือนิดหน่อย แล้วกลิ่นวานิลา ตีจนเนียนฟู มันฟูไม่มาก แล้วเราสังเกตุได้ค่ะ


@ เนื้อครีมชีสได้ทีแล้ว @

เทครีมชีสลงในถาดปาดหน้าครีมให้เรียบเสมอกัน
เอาเข้าเตาอบ ใช้ไฟ 165C 30 นาทีนะค่ะ
เสร็จแล้วยกมาพักไว้ข้างนอก รอจนเย็นแล้วค่อยเอาเข้าตู้เย็น


@ อบสุกใหม่ๆ @

ลืมบอกไปว่าก่อนอบให้เอากระดาษฟลอยด์รองก้นของถาดด้วยนะค่ะ
เนื้อครีมชีสหลังอบจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ตรงขอบๆ ค่ะ ข้างในจะนิ่มๆ
แช่ตู้เย็นอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง หรือ 1 คืนนะค่ะ แล้วค่อยนำออกมาจัดจานเสริฟ


 @ ถอดออกจากถาดพิม @


 @ หั่นสักชิ้น เนื้อครีมชีสเซตตัวดีมาก @ 


@ ราดด้วยซอสบลูเบอรี่ หรือ สตอเบอร์รี่ หรือ ทานเปล่าๆ ก็อร่อยนะค่ะ @

















และยังมีอีก 2 เมนูอาหารปักษ์ใต้ ที่ได้ทำไว้ก่อนหน้านี้ คือ
โรตีมะตะบะไก่ และ ข้าวยำปักษ์ใต้

โรตีมะตะบะทำบ่อยๆแล้ว มีวิธีการทำในบล็อกเก่าที่มินีเคยเขียนไว้ ลองอ่านดูนะค่ะ


 @ แป้งโดว์โรตี @


 @ ทำไส้โรตีมะตะบะ @


@ โรตีมะตะบะไก่กับน้ำอาจาด @


แต่ข้าวยำเนี้ย จริงๆ ทำข้าวยำนี้ มันสำคัญที่การปรุงน้ำบูดู
คุณแม่ของมินีเขาปรุงอร่อยมาก มินีเองเลยต้องทำให้ได้ใกล้เคียงเขา
สามีเขาคาดหวังไว้มาก เพราะเขาบอกว่า ไม่เคยคิดบูดูข้าวยำของใครอร่อยเท่าของแม่เรา
ไหนๆ ก็เป็นลูกสาวเขาแล้ว ต้องทำให้ได้ ถึงไม่เหมือนก็ใกล้เคียงกันก็ยังดี
วันนี้ตัวข้าว มินีหุ้งเป็นสีเหลือง โดยใช้สีจากขมิ้นผงลงไปผสม ทุบตะใคร้ และใส่ใบมะกรูดให้หอมๆ 


@ เคี้ยวน้ำบูดูข้าวยำเองครั้งแรกในชีวิต @





@ ข้าวยำ โดย แม่นี @


วันก่อนจัดบ้านแล้วไปเจอนิตยสารที่ไปหยิบในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เมลเบิร์น
ตอนที่หยิบ แอบชอบสีสันของนิตยสารเล่มนี้ สวยดี
แต่พอเปิดอ่านข้างใน มันสุดยอดมาก มีเมนูอาหาร และวิธีการทำเพียบเลย
เมนูแปลกๆ หลากหลายชาติ ที่สำคัญ ทำไม่น่ายาก (คิดเองนะ)
เลยบอกพี่สาวกับพี่เขยว่า ถ้าได้ไปที่นั่นอีก ฝากหยิบให้ทุกเดือนเลยนะ 
ส่งกลับมาให้หน่อย จะเอามาเก็บเป็นคู่มือการทำอาหารซะเลย มีหลายอย่างที่อยากลองทำ
@ Coles Australia @




เริ่มสนุกและมีความสุขกับการทำอาหารแล้วสินะ

ไปแล้วนะ กำลังจะโดนออดิทช่วงบ่ายอีกรอบ วันนี้มียาวทั้งวันเลย T__T


มีความสุขในทุกๆ วันนะค่ะ



Thursday, July 17, 2014

@^^ทำบานอฟฟี่ง่ายๆ ที่บ้าน^^Homemade Banoffee At Home^^@

17 Jul 2014
Time 15:15LT
@ DMK, Airport
Temp 33C Mostly Cloudy,



7 Jul 2014
มาทำบานอฟฟี่ง่ายๆที่บ้านกันค่ะ
เป็นอีกเมนูที่ชอบ และอยากทำมานาน
มิคาอิลก็ชอบ เพราะเป็นเด็กที่ชอบกินกล้วยมากๆ
ขนมทุกอย่างที่มีส่วนผสมของกล้วย ก็จะชอบ
สงสัยมามาต้องหัดทำอีกหลายเมนู



มาดูส่วนผสมและอุปกรณ์ในการทำกันค่ะ
กล้วย 2 ลูก, บิสคิสหรือแครกเกอร์ 200 กรัม, คาราเมล
วิปปิ้งครีม 200 กรัม น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ เกลือนิดหน่อย, ผงโกโก้
เนยละลาย, ชอคโกแลคขูดไว้ตกแต่ง
ถาดขนม, เครื่องผสมอาหาร, ไม้พาย

@ วัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ใช้ @

เริ่มแรกเอาแครกเกอร์มาบดละเอียด โดยการใส่ถุงซิบแล้วทุบๆ
มินีใช้ที่ปั่น เซฟเวลาเยอะมาก บ้านใครมีที่ปั่นอาหารแห้ง ก็ใช้เครื่องปั่นได้นะค่ะ


@ บดให้ละเอียด @


 @ บดเรียบร้อย @

ใส่ลงในภาชนะสำหรับผสมเนยละลาย หาใหญ่ๆ ก็ดีนะค่ะ ทำงานง่ายดี


 @ เทเนยละลาย @


 @ คนให้เข้ากัน @

คนเข้ากันแล้ว เทลงในพิมพ์ มินีใช้พิมพ์เค้กขนาด 7-8 นิ้ว อัดให้เรียบ
แล้วเอาเข้าช่องฟรีซประมาณ 1 ชั่วโมง


 @ อัดให้เรียบแบบนี้ @


 @ แครกเกอร์เหลือ เลยเอามาใส่ในถ้วยเล็กให้มิคาอิลได้กิน @

หลังจากแช่ช่องฟรีซมาแล้ว 1 ชั่วโมง เอาออกมาแล้วเทคาราเมลทอฟฟี่ลงเลยจ้า
คาราเมลทอฟฟี่มินีทำง่ายๆ โดยการที่เอานมข้นหวานต้มทั้งกระป๋องลงไปในน้ำเดือด
ใช้เวลาในการต้มอย่างน้อย 2 ชั่วโมง แล้วแต่จะให้นานกว่านี้ก็ได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมงนะค่ะ
ง่ายๆ แค่นี้เองจ้า เสร็จแล้วก็เปิดฝากระป๋อง จะได้คาราเมลสีน้ำตาลสวยๆ แบบนี้





 @ หั่นกล้วยใส่ลงไปตามแต่ชอบเลย @

มาถึงขั้นตอนที่รอ เพราะอยากลองใช้เครื่องตีผสมอาหารที่เพิ่งซื้อมาใหม่
รู้สึกตื่นเต้นมากเลย 555 แบบว่าไม่เคยใช้อ่า เคยเห็นแต่คนอื่นใช้ พอมาใช้เอง รู้สึกตื่นเต้นมาก


 @ ตีครีมจนสามารถตั้งยอดได้ @

ตีครีมกับน้ำตาลไอซิ่งแล้วเกลืออีกนิดหน่อยให้เข้ากันจนสามารถตั้งยอดได้
เทวิปครีมลงในพิมพ์ขนมที่เตรียมไว้ แล้วเอาไปแช่ช่องฟรีซอีกรอบ


 @ แช่ช่องฟรีซอีกรอบ @

ตอนนี้ก็สามารถกินบานอฟฟี่ได้แล้ว กินเย็นๆ กับกาแฟร้อนสักแก้ว อร่อยจริงจังมากๆ


 @ ของมิคาอิล @

มินีตกแต่งหน้าสวยๆ ด้วยการโรยผงโกโก้ให้ทั่วหน้า แล้วขูดชอกโกแลคโรยอีกนิด
สวยมากๆ เลยบานอฟฟี่ของฉันครั้งแรกที่ทำทานเอง





 @ คำแรก @


 @ หลายคำจนหมดถ้วย @

แค่นี้เองค่ะ ทำกินเองง่ายๆ กินได้ทั้งครอบครัว ประหยัดตังค์อีกต่างหาก




















@ สักชิ้นมั้ยค่ะ? @


มีความสุขกับการทำอาหารให้คนที่รักทาน
แม้จะมีเรื่องให้ทุกข์ใจบ้าง แต่ก็ทำเป็นลืมๆ ไป ไม่ต้องเอามาใส่ใจไรมาก
มันก็ช่วยให้จิตใจเราเบิกบานขึ้นได้นะค่ะ


มีความสุขในทุกๆ วันค่ะ