iTime

Monday, September 10, 2012

@ปฐมนิเทศชั้นเด็กผีเสื้อของมิคาอิล+งานแต่งของพี่อลิส Mikail's Oreintation Class & Alice's Wedding Party@

9 Sep 2012
Time 22:48
@ FlyawayMinee House
Neo City Village
Temp 29 degree celcius

 
 
ขอเขียนบันทึกในวันที่ 9 เดือน 9 หน่อยนะค่ะ เลขมันสวยดี
มันดูมีอะไรดี แต่ยังไงๆ มันก็ยังเป็นวันธรรมดาๆ ของเราอยู่ดี
ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ หรือพิเศษใดๆ แค่มีเรื่องมิคาอิลเล่าค้างมา
ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว เลยอยากมาบันทึกก่อนที่จะลืมไปเสียก่อน
 
4 Sep 12
 
วันนี้มีนัดประชุมขึ้นชั้นเรียนใหม่ของมิคาอิล ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ
คุณครูนัดไปประชุมช่วงบ่าย ค่อยยังชั่วหน่อย ช่วงบ่ายรถไม่ติด
แถมเราไม่ต้องรีบ ขับไปเรื่อยๆ ทางด่วนก็ไม่ต้องขึ้นให้เสียตังค์
 
เริ่มประชุมตอนบ่ายสองโมง วันนั้นพาแม่ไปด้วย ไม่อยากให้อยู่บ้านคนเดียว
กลัวแม่จะเบื่อ แต่ให้แม่ไปเดินเล่นรอที่ Central World กับคุณอลันและมิอิล
มินีเข้าร่วมประชุมคนเดียว ในคลาสนี้มีเด็กร่วมคลาสทั้งหมด 9 คน
คุณครูให้ผู้ปกครองตั้งเป้าหมายว่าเทอมนี้เราคาดหวังอะไรบ้างกับลูกเรา
ให้พูดที่ละคน แล้วให้เล่าให้ฟังด้วยว่าช่วงปิดเทอม ลูกเราพัฒนาไปถึงขั้นไหน
มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้ปกครองของแต่ละคนว่ามีวิธีจัดการ
กับลูกตัวเองยังไงเวลาที่ดื้อ หรือไม่เชื่อฟัง แต่ละคนก็มีวิธีการแตกต่างกันไป
ซึ่งมีประโยชน์มากๆ สามารถเอาวิธีการต่างๆ ที่แชร์มาใช้ได้ดีทีเดียว
แต่แอบคิดไม่ได้ว่าการประชุมผู้ปกครอง เหมือนเรามาสอบจิตวิทยาเลย อิอิ


@on the way to Chula Hospital@
 
 
มินีได้ตั้งเป้าหมายตามที่คุณครูเขากำหนดมา 5 ข้อ
และแอบหวังว่ามิคาอิลน่าจะทำได้
 
สิ่งแรก คือ คลาน
 
แอบหวังอยากเห็นมิอิลคลานเหมือนเด็กคนอื่นๆ ปัจจุบันเขาไม่คลาน
แต่เขาคลืบแบบทหารคอมมาโด ดึงอกตัวเอง ซึ่งเป็นท่าที่ผิด
ที่รู้ว่าเป็นท่าที่ผิด เพราะมินีพามิคาอิลไปทำกายภาพบำบัด
ที่โรงพยาบาลบีแคร์ฯ นักกายภาพที่ทำกายภาพบอกว่า
มิอิลล็อคข้อทุกส่วนของร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขายังไม่คลาน
แล้วก็ยังเดินไม่ได้ ถ้าไม่แก้ไขปัญหาข้อที่ล็อคอยู่
 
 
สิ่งที่สอง คือ เดิน
 
อยากให้มิอิลเดินได้เองไวๆ เพราะสงสารคุณยาย เขาอุ้มมิอิลไม่ไหวแล้ว
มิอิลเองก็อยากเดิน มามารู้ แต่มิอิลยังเดินเองไม่ได้ มิอิลคงอึดอัดใจตัวเอง
พยายามหน่อยนะมิอิล แล้วหนูก็จะเดินได้ไวไวนะ
 
สิ่งที่สาม คือ พูด
 
อยากให้เขาพูดคำที่มีความหมายได้มากกว่าเดิม
 ตอนนี้คำที่เขาพูดบ่อยๆ คือ ไป น้ำ ไม่เอา มามา ปาปา เต่า หมา
คำใหม่ที่เพิ่งได้ยิน คือ ร้อน
เขาจะพูดสลับกันทั้งภาษามาลายูกับภาษาไทย
แต่ช่วงนี้จะพูดมาลายูมากกว่า เพราะไปอยู่ใต้เกือบเดือน
เลยคุ้นเคยกับภาษามาลายูมากกว่าภาษาไทย
 
สิ่งที่สี่ คือ ขับถ่าย
 
อยากให้มิอิลบอกว่าปวดฉี่ หรือปวดอึให้ได้
ปัจจุบันเขายังต้องใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปอยู่ กลางวันใส่บ้าง บางวันลองไม่ใส่
แต่เขาก็ยังฉี่ในกางเกง เขาบอกไม่ได้ว่าเขาปวดฉี่หรือปวดอึ
 
สิ่งสุดท้าย คือ อยากให้เขากินข้าวกับช้อนเองได้
 
ด้วยอายุเขาแล้ว มิอิลน่าจะกินเองโดยใช้ช้อนได้แล้ว
แต่มิอิลยังใช้มือ ช้อนมีไว้เคาะโต๊ะแทน แต่สิ่งนี้กำลังจะเกิดขึ้นจริง
เพราะมินีลองให้เขาใช้ช้อนกินเองดู สอนให้ตักข้าวเข้าปาก
แล้วดูท่าทางเขาจะชอบ เลยปล่อยให้กินเอง ซึ่งเขาก็ทำได้ดีทีเดียว
 
@I can do it as well@
 
กว่าจะประชุมผู้ปกครองเสร็จก็สี่โมงเย็นกว่าๆ แล้ว
เรารีบนั่งบีทีเอสไปหาแม่ มิอิลและคุณสามีที่พารากอนเลย
คงเดินจนเบื่อไปเลย ทำธุระที่นั่นจนเสร็จก็รีบกลับบ้าน
เพราะรถน่าจะติดน่าดูเลย ข้อดีที่มิอิลเรียนตอนบ่ายคือ
ช่วงเช้าพวกเราไม่ต้องรีบ ไม่ต้องกลัวรถติดช่วงเช้า แต่ข้อเสีย คือ
รถติดมากช่วงเย็น เฮ้อ.....จะยังไงรถก็ติดอยู่ดี กรุงเทพมหานครของเรา
T_T
 
 
@New Mikail's diary book@

เตรียมสมุดบันทึกเล่มใหม่ให้มิคาอิล ออกแบบปกเอง
คุณครูจะได้อ่านง่ายๆ

8 Sep 12
 
 วันนี้เป็นวันแต่งงานของพี่อลิส พี่ที่ออฟฟิต
ยังไม่ได้วางแผนว่าจะแต่งตัวแบบไหนดีแต่งานของเขาไม่ได้มีธีม
แต่งสีอะไรก็ได้ เราเลยไม่ได้ไปซื้อชุดใหม่ใช้ของเก่าที่มีอยู่
ชุดที่เลือกเป็นสีม่วง ผ้าคลุมก็มีสีม่วงที่เข้าชุดพอดี
เหลือแค่สไตล์การแต่งหน้าว่าจะเป็นแบบไหน
หาเวลาว่างช่วงทำงาน เปิดยูทูปดูว่าจะแต่งหน้าสีม่วงแบบไหนดี
เจอวีดีโอสาธิตการแต่งหน้าที่เป็นสีม่วงพอดี แล้วก็ชอบมาก
เลยดูวิธีการลงสี แล้วจำเอามาแต่งเองที่บ้าน
  
@I followed this look@
 
แต่งออกมาเป็นแบบนี้
 
@done@
 
 
ไม่ค่อยเหมือน แต่ก็พอใจในระดับนึง point คือ สีม่วง
แล้วก็แต่งออกม่วงอย่างที่ตั้งใจไว้
 
งานนี้ฉายเดี่ยว เพราะคุณสามีต้องดูมิคาอิลแทนแม่
สามีมีเหน็บเราก่อนออกจากบ้านว่า
"แหม แต่งสวยไปอวดหนุ่มๆตำรวจละสิ"
คือว่า เจ้าบ่าวเป็นนายตำรวจใหญ่ งานนี้เลยมีตำรวจซะเต็มงานเลย
 
สรุป สามีหึงเราเว้ยเฮ้ยยย!!! นานๆ จะได้ยินคำหึงจากคุณนะ!
 
งานจัดขึ้นที่สโมสรตำรวจ ตรงถนนวิภาวดี ไม่ไกลบ้าน สะดวกดี
งานจัดแบบคอทเทล แต่เราก็ไม่ได้ทานอะไรมาก เพราะกินข้าวมาก่อนแล้ว
 
คนที่มาร่วมงานเยอะมาก ซึ่งในงานก็มีแต่คนสวยๆ ตรึมเลย
เนื่องจากที่เจ้าสาวเป็นอดีตแอร์โฮสเตส
ตั้งหลายสายการบิน เช่น กัฟแอร์ที่ Bahrain พีบีแอร์
แอร์เครื่องบินส่วนตัวที่ KL แล้วก็แอร์สายการบินสยามแลนด์
 
เพื่อนๆ เจ้าสาวเลยมีดีกรีเป็นแอร์ซะส่วนใหญ่ คึกคักดีค่ะ
 
@ Three of us@
 
ถ่ายรูปกับมิอิล,ปาปาสักรูปก่อนออกจากบ้าน
มิอิลดีใจที่คิดว่าตัวเองได้ไปงานด้วย
แต่เสียใจด้วยนะหนุ่มน้อย หนูอดไปจ้า
 
"ภายในงาน"
 
@Wedding Cake@
 
 
@Lovely Corner@
 
 
@Lovely Sis@
 
 
@Lovely Bride@
 
 
 
@With lovely Sis..@
 
 
@With Next Bride....Jeeje! ieieie@
 
 
@like like like@
 
 
 
 
 
@We are RoyalSkyway@
 
 
@Fin....@
 
งานจัดได้รวบรัดดี ไม่ยืดเยื้อ งานเลิกไวมาก สองทุ่มกว่าๆ ก็เลิกแล้ว
ผิดกับงานของมินี เริ่มงานเก้าโมงเช้ายันสามทุ่มเลย
จำได้ว่าวันแต่งงานเราเหนื่อยมากๆ
 
ไฮไลท์งานนี้คงอยู่ที่พิธีลอดซุ้มกระบี่นี่แหละ ชอบมาก
เหมือนเจ้าชายเจ้าหญิงเลย
 
@ลอดซุ้มกระบี่@
 
 
ภาพสุดท้ายของเอนทรี่นี้
 
@Our Boss@
 
จับภาพเจ้านายขึ้นไปอวยพรคู่บ่าวสาวด้วย
 
 
ปีนี้ที่ออฟฟิตแต่งไปแล้วสามคู่ จนกันไปตามๆ กัน
แต่ก็ยินดีด้วยกับทุกคู่นะค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ
รักกันจวบจนสิ้นดินฟ้าสลายเลยนะค่ะ
 
 
 
 
Credit : น้องมิตซี่ ภาพส่วนนึงในงานแต่งฯ