iTime

Sunday, February 1, 2015

@^^เรื่องเล่าคนใต้ปีก ณ โรยัล ตอนที่ 1 "วันแรก ปีแรก ณ โรยัลกรุ๊ป^^Life was begin At Royal Group, Wind Beneath The Wings Eps #1^^@

1 Feb 2015
Time 12:00LT
@ DMK, Airport
Temp 29C


Wind Beneath The Wings Eps #1

ตอน "วันแรก ปีแรก ณ โรยัลกรุ๊ป"


1 Feb 2005
วันนี้เป็นวันเริ่มงานวันแรกของมินีที่ Royal Sky
อยากจะบอกว่า รู้สึกโล่งมาก ดีใจมาก เพราะมินีตกงานมาเกือบ 3 เดือน
ตอนนั้นแย่มาก ไม่มีเงิน แต่ก็ไม่ยอมกลับไปขอความช่วยเหลือจากที่บ้าน
มีคุณสามีตอนนั้นคบเป็นเพื่อนสนิท คอยให้ความช่วยเหลือตลอด

กว่าจะมาทำงานที่นี่ได้ก็สาหัสพอสมควร มินีต้องผ่านการสัมภาษณ์
กับเจ้านายใหญ่ของ RG จริงๆ มินีถูกเรียกสัมภาษณ์ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมแล้ว
แต่กว่าจะเรียกมาทำงานก็ 1 เดือนพอดี ต้องขอบคุณพี่ทัช พี่อาท ที่ช่วยเชียร์
จนนายยอมเรียกให้มินีมาทำงานนี้ ตำแหน่งที่ทำก็จะเป็นทั้ง 
Ground Service และเป็นผู้ช่วย Flight Dispatcher คือผู้ช่วยพี่อาทนั้นเอง

ตอนนั้นที่บริษัทมีคนทำงานไม่ถึง 10 คนเลย แน่นอนฝ่ายปฏิบัติการบินมีแค่มินีกับพี่อาท
ช่วยแรกๆ ที่ทำงาน เครื่องบินที่จะเข้ามาทำการบินแบบเช่าเหมาลำ ยังไม่มา
งานที่ต้องทำคือ ช่วยประสานงานต่างกับออฟฟิตในเมือง และประสานงานกับการท่าฯ

ไปทำงานวันแรกๆ ก็โดนเจ้านายใหญ่ด่า เรียกว่าสอนดีกว่า
คือแบบว่ามินีไปไม่เป็นเลย มึนมาโดนชุดใหญ่
เรื่องมีอยู่ว่า มีพี่นักบินที่มินีรู้จัก เขาบินเครื่อง Private Jet ที่มาเก๊า 
แล้วเอาเครื่องมาบินไทยในช่วงนึง พี่เขาเป็นคนไทย พอเจ้านายใหญ่รู้ว่ามินีรู้จักเขา
เจ้านายอยากให้มินีนัดเขามาคุยที่ออฟฟิต เพราะอาจจะมีงาน หรือทำอะไรด้วยกันได้บ้าง
ตอนนั้นตลาดเครื่อง Private ยังไม่บูมมาก มินีเลยทำการนัดเรียบร้อย
แต่พอใกล้วันนัด พี่นักบินโทรมาเลื่อน เพราะติดธุระจริงๆ มินีก็รับทราบ
แต่มินีพลาดมากที่ไม่ได้โทรบอกเจ้านายใหญ่เองโดยตรง 
มินีฝากบอกกับพี่อีกคนที่ทำงานมาก่อนหน้านี้ และสนิทกับเจ้านายใหญ่มากกว่ามินี
คือ อารมณ์นั้น มินีไม่กล้าโทรหานายเอง สาเหตุเพราะ เพิ่งเข้ามาทำงาน
แล้วท่านก็เป็นเจ้านายใหญ่ เลยรู้สึกไม่กล้า มันคืออะไรที่มินีรู้สึกว่าเอื้อมไม่ถึงไง

แต่อะไรรู้มั้ย? พี่คนนั้นไม่ได้แจ้งเจ้านายใหญ่ไง เขาลืมหรืออะไร มินีจำเหตุผลไม่ได้แล้ว
สรุป เจ้านายใหญ่มาถึงออฟฟิต แต่ไม่มีใครอยู่เลย ไฟปิดมืด 
ท่านโมโหมาก ไปถามหาเบอร์มือมินีจากคนอื่น แล้วสักพักโทรศัพท์มินีดังขึ้นมา
ไม่โชว์เบอร์ด้วย ใครโทรมาว่ะ??

เสียงตามสาย
เจ้านายใหญ่: นี
มินี: ค่ะ
เจ้านายใหญ่: ผมเองนะ
มินี: ค่ะ คุณ....
เจ้านายใหญ่: ผมอยู่ออฟฟิต ทำไมไม่มีใครอยู่เลย
มินี: อ่อ พี่นักบินเข้าขอเลื่อนนัดค่ะ หนูฝากพี่...บอกคุณ...(เจ้านายใหญ่แล้ว) นี่ค่ะ?

ทันใดนั้น เป็นฟ้าผ่าลงตรงหน้าเลย

เจ้านายใหญ่: (เสียงโมโหมาก) สรุปคุณกินเงินเดือนใคร?
ถ้าคุณโทรบอกพี่..แต่ไม่โทรบอกผม 
สิ้นเดือนก็ไปรับเงินเดือนกับเขาละกันนะ!!!%&)^)&@

มินี: เสียงสั้น ไปไม่เป็น พูดไม่ออก นอกจากคำขอโทษ

นับจากวันนั้นมา จนถึงวันนี้ มินีจำขึ้นใจ
ไม่ไว้ใจให้ใครทำงานแทน ถ้าจะฝากงานใคร ต้องตามเองด้วย
ต้องจบมันลงให้ได้ ไม่เอาอีกแล้ว โดนแบบนี้ในวันแรกๆที่ทำงาน
จำไปจนตายเลย แต่ก็ถือว่าบทเรียนที่ดีบทนึงเลยนะ


@ นั่งรถไฟจากดอนเมืองไปลงที่หัวลำโพง
ทำงานแค่อาทิตย์เดียว ก็ได้รับโบนัส เงินอั่งเปาจากเจ้านายใหญ่ @


ตอนนั้นดีใจมาก เงินเดือนเดือนแรกยังไม่ออก 
แต่ได้รับเงินโบนัส เอามาต่อชีวิตได้ด้วย
คนตกงานไปหลายเดือน มีเงินมาต่อชีวิต 
โดยที่เราไม่ต้องไปขอจากที่บ้าน เป็นอะไรที่สุดๆ แล้ว
จริงแล้ว นายเขาใจดีมากเลยนะ ยังให้เงินที่ถือเป็นโบนัส 
สำหรับพนักงานใหม่อย่างมินี


@ เครื่อง Hawker 800XP ที่คุ้นเคย @

เครื่องมาแล้ว เตรียมเหนื่อยได้เลย


 @ วันนี้แหละที่โดนนายด่า รถที่ถ่ายก็เป็นรถของพี่นักบินที่จอดอยู่ใต้ตึก
แต่เจ้าตัวไม่อยู่ สงสัยไปบิน @




วันนั้นมีงานเลี้ยงส่งฟรุ๊ค พนักงานคนเก่งของ RSC
เจ้านายมนัส ตอนนั้นไม่ได้อยู่ช่วยทำงานที่ RSC 
เหมือนเจ้านายจะออกก่อนที่มินีจะเข้ามาทำงาน
แต่วันนี้ก็มางานเลี้ยงส่งฟรุ๊คเหมือนกัน





จะเล่าการทำงานคร่าวๆของช่วงสามสี่เดือนแรกหลังเครื่องมากนะค่ะ
คือ เหนื่อยมาก ทำกัน 4 คน แล้วไฟล์ทก็เยอะมาก ส่วนมากจะเป็นไฟล์ทขนส่งผู้ป่วย
คือ ทำงานแบบ Non-stop ไม่ได้หยุด บางวันนอนที่ออฟฟิต
เจ้านายใหญ่เคยแวะมาเยี่ยม ซื้อโรตีมาฝาก 
มีถามว่าเหนื่อยมั้ย? ทำไหวหรือป่าว? ด้วยนะ
ตอนนั้น ตอบไปว่า เหนื่อย แต่ยังไหวอยู่ค่ะ 
ไม่กล้าตอบอะไรอย่างอื่นแล้ว กลัวโดนด่าอีก
คือ วิ่งทำเอกสาร ส่งเอกสาร ติดต่อตม. สนามบินตอนนั้นยังไม่ย้าย
ตม. ศก. สมัยนั้นเคี้ยวมาก ยิ่งห้องพิธีการบินนะ ดุมากสมัยนั้น
ไม่รู้เจ้าหน้าทีห้องพิธีการบินไปกินอะไรผิดก่อนมาทำงาน
เจอหน้าที่ไรเป็นต้องด่าทุกรอบที่ไปส่งเอกสาร
ไม่ได้ทำผิดอะไรเลยก็ขอด่า ไม่เข้าใจจริงๆ จะเถียงเขากลับไม่ได้ด้วยนะ
เดี๋ยวเขาจะกวนตรีนเรา ไม่โทรปล่อยเครื่อง ก็จะมีปัญหาอีก
ช่วงนั้นก่อนเจอตม. หรือไปห้องพิธี ต้องอ่านดุอา อ่านบิสมินละห์ 
เพื่อให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี คือ ทำคนเดียว ไหนจะต้องรีบไปเจอนักบิน
พาเดินผ่านการตรวจหนังสือเดินทาง จ่ายตังค์ ทุกสิ่งอย่าง อยู่ที่มินีหมด

ใครเป็นกราวด์สตาฟช่วงเวลานั้นที่สนามบิน
จะเข้าใจและรู้กิติศักดิ์ของห้องพิธีและตม ศก เป็นอย่างดี 
ไม่แปลกใจที่ผอมมาก สมัยนั้นเดินเยอะ เดินจนตีนเหม็นมาก 
ตัวซูบผอม น้ำหนักตอนนั้นแค่ 58 กก.ได้


 @ อยากผอมแบบนี้อีกครั้ง @

มีอยู่วันหนึ่ง ทำไฟล์ทจากอินเดียเพิ่งเสร็จ ตั้งแต่เช้ามืด บ่ายแก่ๆ นั่งรถเมล์กลับบ้าน
แบบว่า คิดไว้ว่าจะอาบน้ำนอนสักงีบ อยู่ๆมีโทรศัพท์ดังเข้ามา 
นีๆๆ ถึงไหนแล้ว กลับมากก่อนๆ มีฮานอย อีกสองชั่วโมงออก
โอ้!!!! ชีวิตฉัน อะไรกันว่ะเนี้ย!! เหนื่อยสายตัวแทบขาด 
ต้องลงจากรถ ข้ามถนน นั่งรถเมล์อีกสายกลับไปดอนเมือง
ชีวิตตอนนั้นมีแต่งานจริงๆ ไม่ได้ไปเที่ยวไหน ไม่ได้พบปะเพื่อนฝูงเลย
จนที่บ้านบอกว่าเราบ้างานมาก คือ ไม่บ้างานเลยค่ะ แต่มันต้องทำ
ทำจนมันรู้สึกชิน เหนื่อยมากแค่ไหน เหมือนจะรับได้หมด


ช่วงท้ายๆ ปี เครื่องเช่าถูกส่งกลับไป เพราะสรุปข้อตกลงกันไม่ได้
มีแนวทางการทำธุรกิจใหม่คือ โรงเรียนการบิน บินชมวิว Sightseeing Flight
และให้บริการภาคพื้น Ground Handling Service
เครื่องบินฝึกลำแรกที่เข้ามาประจำการคือ Cessna 182R ทะเบียน HS-RSC
แอบปลื้มที่ลายเครื่องบินลำนี้ เป็นการออกแบบของสามีมินีเอง 
สมัยนั้นยังเป็นแค่เพื่อนสนิท ฮี่ๆๆ





และก็เริ่มเตรียมเปิดโรงเรียน ในช่วงแรก เราเปิดหลักสูตร PPL เท่านั้น
ศิษย์ที่มาเรียนส่วนมากจะเป็นนักธุรกิจ ดารา
พร้อมๆกับงานกราวด์แฮนเดิลลิ่ง เริ่มมีเข้ามา เพราะ Royal Sky ในขณะนั้น
มีใบอนุญาตให้บริการลานจอดแก่อากาศยานอื่นได้
ตอนนั้นบริษัทที่มีใบอนุญาตนี้มีไม่เยอะ ก็จะมีการบินไทย
TAGS, และ Thai Flying และ Royal Sky ถ้าจำไม่ผิดนะค่ะ
ก่อนที่กรมการบินพลเรือนจะยกเลิกใบอนุญาตนี้ในอีกหลายปีต่อมา


@ คุณนุ่ม วรนุช มาถ่ายรายการที่นี่หมอชิต @



สรุป ปี 2005 เป็นปีที่เริ่มต้นการทำงานด้านการบินอีกครั้ง ทำหนักกว่าเดิม
ทำหลายอย่าง เหนื่อยจนไม่รู้จะพูดว่าเหนื่อยยังไง
ผูกพันมากกับเครื่องบิน เจอเรื่องแปลกๆ ไม่ซ้ำในแต่ละวัน
เจอเจ้าหน้าที่กวนตรีนในหลากหลายรูปแบบ


ปี 2006 มีการเริ่มต้นให้เรียนรู้งานอีกด้าน แต่ก็ยังเกี่ยวข้องกับเครื่องบินอยู่
ไว้จะมาเล่า และรวบรวมรูปมาบันทึกให้อ่านกันนะค่ะ

วันนี้วันอาทิตย์ มีความสุขในทุกๆ วันนะค่ะ แม้คุณจะทุกข์
ขอให้มีทุกข์นั้นไม่สามารถทำลายจิตใจที่เข้มแข็งของคุณได้
แค่นี้คุณก็จะเริ่มมีความสุขเพิ่มขึ้นแล้วค่ะ






No comments: