Time 13:07LT
@ Hangar 4426
Temp 31C
19-20 Jul 14
รอมดอนเดินมาถึงคืนที่ 23 แล้ว เร็วมากๆเลย
จำได้ว่าเพิ่งถือศีลอดไม่กี่วันเอง เวลาเดินเร็วเกินกว่าใจเราแล้วสินะ
ในเดือนที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ ร่วมส่งดุอาถึงพี่น้องของเรา
ที่กำลังทนทุกข์ทรมานที่กาซ่า ซีเรีย อียิปต์ และดินแดนต่างๆ ด้วยนะค่ะ
มีเมนูใหม่มานำเสนออีกแล้วค่ะ
พอดีวันนี้หยุดอยู่บ้าน หลังเล่น T25 เรียบร้อย ก็ชวนสามีไปเดินเล่นที่ห้าง
แวะซื้อของในซุปเปอร์นิดหน่อย สามีอยากกินข้าวยำ เลยไปหาซื้อเครื่องปรุง
และได้ทีเลย หาวัตถุดิบมาทำขนมด้วยดีกว่า อิอิอิ
วันนี้มินีจะลองทำขนม "บลูเบอรี่นิวยอร์คชีสเค้ก" ค่ะ
@ Blueberry New York Cheesecake @
ทำไมต้องเป็นนิวยอร์คชีสเค้ก คำตอบคือ ชีสเค้กสูตรอื่นๆ เขาไม่อบ
อาศัยให้เขาเซตตัวด้วยการนำแช่ตู้เย็นเท่านั้น
แต่ด้วยส่วนผสมของครีมชีส มีไข่ผสมด้วย
มินีรู้สึกว่ามันดิบเกินไปที่เราจะทานแบบไม่ทำให้สุก (คิดไปเอง)
เลยเลือกทำ New York Cheesecake เพราะมันต้องอบ โอเครป่ะ?
เรามาดูวัตถุดิบกันเลยว่ามินีใช้อะไรบ้าง
@ วัตถุดิบ @
(ในรูปถ่ายวัตถุดิบไม่ครบ บางอันก็ไม่ได้ใช้ จะเอาไปทำเมนูอื่น *___' )
แครกเกอร์, ครีมชีส, ไข่ไก่, น้ำตาล, เนยละลาย, เกลือนิดหน่อย
ซอสบลูเบอรี่, เลมอน , แป้งเอนกประสงค์, ซาวครีม, กลิ่นวานิลา
เครื่องตีผสมอาหาร, ถาดพายขนาด 8-10 นิ้ว
เริ่มด้วยการบดแครกเกอร์ให้ละเอียดนะค่ะ ใช้แครกเกอร์ 1 กล่องเลยนะ
ใส่เนยละลายลงไปผสม คลุกให้เข้ากัน เทใส่ถาดพาย
บี้ๆให้แน่นทั่วถาด รวมถึงขอบๆ ถาดด้วยนะค่ะ
พักไว้ก่อน ไม่ต้องเอาเข้าตู้เย็นนะ ตั้งไว้ข้างนอกนี่แหละ
มาทำครีมชีสกันค่ะ
นำครีมชีส 2 ก้อนในอุณหภูมิห้อง หั่นชิ้นเต๋าไว้ ใส่ในถ้วยผสม
ใช้เครื่องตีผสมอาหารตีให้เนื้อครีมชีสเนียนละเอียด
แล้วใส่ซาวครีม 1 ถ้วยตวงลงไป ตีเรื่อยๆ ใส่น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ ตีต่อเลย
ใส่แป้งเอนกประสงค์ 1 - 2 ช้อนโต๊ะ ตีเรื่อยๆ ใส่ไข่ไก่ที่ละฟอง จนครบ 2 ฟอง
ตีต่อเรื่อยๆ เลยนะค่ะ ใส่ผิวเลมอน แล้วบีบน้ำเลมอนครึ่งลูกลงไป ตีต่อ
สุดท้ายใส่เกลือนิดหน่อย แล้วกลิ่นวานิลา ตีจนเนียนฟู มันฟูไม่มาก แล้วเราสังเกตุได้ค่ะ
@ เนื้อครีมชีสได้ทีแล้ว @
เทครีมชีสลงในถาดปาดหน้าครีมให้เรียบเสมอกัน
เอาเข้าเตาอบ ใช้ไฟ 165C 30 นาทีนะค่ะ
เสร็จแล้วยกมาพักไว้ข้างนอก รอจนเย็นแล้วค่อยเอาเข้าตู้เย็น
@ อบสุกใหม่ๆ @
ลืมบอกไปว่าก่อนอบให้เอากระดาษฟลอยด์รองก้นของถาดด้วยนะค่ะ
เนื้อครีมชีสหลังอบจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ตรงขอบๆ ค่ะ ข้างในจะนิ่มๆ
แช่ตู้เย็นอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง หรือ 1 คืนนะค่ะ แล้วค่อยนำออกมาจัดจานเสริฟ
@ ถอดออกจากถาดพิม @
@ หั่นสักชิ้น เนื้อครีมชีสเซตตัวดีมาก @
@ ราดด้วยซอสบลูเบอรี่ หรือ สตอเบอร์รี่ หรือ ทานเปล่าๆ ก็อร่อยนะค่ะ @
และยังมีอีก 2 เมนูอาหารปักษ์ใต้ ที่ได้ทำไว้ก่อนหน้านี้ คือ
โรตีมะตะบะไก่ และ ข้าวยำปักษ์ใต้
โรตีมะตะบะทำบ่อยๆแล้ว มีวิธีการทำในบล็อกเก่าที่มินีเคยเขียนไว้ ลองอ่านดูนะค่ะ
@ แป้งโดว์โรตี @
@ ทำไส้โรตีมะตะบะ @
@ โรตีมะตะบะไก่กับน้ำอาจาด @
แต่ข้าวยำเนี้ย จริงๆ ทำข้าวยำนี้ มันสำคัญที่การปรุงน้ำบูดู
คุณแม่ของมินีเขาปรุงอร่อยมาก มินีเองเลยต้องทำให้ได้ใกล้เคียงเขา
สามีเขาคาดหวังไว้มาก เพราะเขาบอกว่า ไม่เคยคิดบูดูข้าวยำของใครอร่อยเท่าของแม่เรา
ไหนๆ ก็เป็นลูกสาวเขาแล้ว ต้องทำให้ได้ ถึงไม่เหมือนก็ใกล้เคียงกันก็ยังดี
วันนี้ตัวข้าว มินีหุ้งเป็นสีเหลือง โดยใช้สีจากขมิ้นผงลงไปผสม ทุบตะใคร้ และใส่ใบมะกรูดให้หอมๆ
@ เคี้ยวน้ำบูดูข้าวยำเองครั้งแรกในชีวิต @
@ ข้าวยำ โดย แม่นี @
วันก่อนจัดบ้านแล้วไปเจอนิตยสารที่ไปหยิบในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เมลเบิร์น
ตอนที่หยิบ แอบชอบสีสันของนิตยสารเล่มนี้ สวยดี
แต่พอเปิดอ่านข้างใน มันสุดยอดมาก มีเมนูอาหาร และวิธีการทำเพียบเลย
เมนูแปลกๆ หลากหลายชาติ ที่สำคัญ ทำไม่น่ายาก (คิดเองนะ)
เลยบอกพี่สาวกับพี่เขยว่า ถ้าได้ไปที่นั่นอีก ฝากหยิบให้ทุกเดือนเลยนะ
ส่งกลับมาให้หน่อย จะเอามาเก็บเป็นคู่มือการทำอาหารซะเลย มีหลายอย่างที่อยากลองทำ
@ Coles Australia @
เริ่มสนุกและมีความสุขกับการทำอาหารแล้วสินะ
ไปแล้วนะ กำลังจะโดนออดิทช่วงบ่ายอีกรอบ วันนี้มียาวทั้งวันเลย T__T
มีความสุขในทุกๆ วันนะค่ะ
No comments:
Post a Comment