@ FlyawayMinee's House
Time 23.22LT
Temp 29C.
มีหลากหลายเรื่องราวมารวมๆกันในเอนทรี่นี้
แล้ววันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของพ่อ ถ้าท่านมีชีวิตอยู่ ท่านก็จะอายุครบ 63 ปีพอดี
คงได้พาท่านไปกินอาหารนอกบ้านกับครอบครัว T__T เหมือนเมื่อก่อน
1-3 Mar 2013
เริ่มต้นเดือนมีนา เดือนเกิดของมินี ปีนี้เป็นเดือนมีนาที่ยุ่งมากๆ
มีไฟล์ททุกวัน พี่ชาย (ลูกพี่ลูกน้องของมินี) ก็มีแพลนจะบินกลับไทยวันที่ 2 นี้
ส่วนมิอิลอยู่บ้านที่นราธิวาส แต่วันที่ 2 คุณอลันก็ต้องบินไปรับกลับมาแล้ว
@ Furby @
@ ช่วงเวลาลูกไม่อยู่ ยังพอมีเวลาแต่งหน้าบ้าง @
เช้าตรู่วันที่ 2 มีนา มินีแลกตารางทำงานกับน้องที่บริษัทฯ
เพราะวันนี้พี่ชายที่อยู่สวีเดนจะกลับมาไทย
ไฟล์ทถึงตอนตี 5 กว่า มินีกับคุณอลันไปรอรับที่สุวรรณภูมิ
น่าเสียดายที่วันนี้คุณอลันต้องเดินทางกลับนราฯ เพื่อไปรับมิอิลกลับกทมฯ
เลยทำให้มินีต้องขับรถพาพี่ชายไปตะเวนกทมฯแทน ปรกติมินีไม่ค่อยชอบขับรถเท่าไรนัก
หลังจากที่รับพี่ชายจากสุวรรณภูมิมาที่บ้านมินีที่ดอนเมืองแล้ว
มินีจัดทำอาหารเช้าง่ายๆให้พี่ชายกับคุณอลัน
เพราะคุณอลันต้องรีบไปขึ้นเครื่องที่สนามบินต่อเลย
วันนี้พี่ชายมีโปรแกรมนอนค้างที่กทมฯ 1 คืน แล้วจะเดินทางกลับไปนราฯ วันรุ่งขึ้น
เลยมีโปรแกรมเดียว คือ พาพี่ชายไปเจอกับพี่สะใภ้กับหลานๆ ของเขาที่แฟชั่นไอร์แลนด์
คืนนั้นกว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาเข้าไป 4 กว่าไปแล้ว เส้นทางรามอินทรารถมันติดได้ใจจริงๆ
แต่พวกเราก็แวะไปกินก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด เจ้าประจำสมัยมินีเรียนหนังสือเมื่อ 10 ปีก่อน
ก่อนจะกลับเข้าบ้านหลังจากกลับถึงบ้าน มินีก็เตรียมตัวเข้านอนเลย
เพราะต้องตื่นตี 3 ไปทำงานต่อ เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ
เช้าวันที่ 3 มีนา เวลาประมาณตี 3 กว่า มินีตื่นมาอาบน้ำ เตรียมตัวไปทำไฟล์ท
เพราะหลังจากทำไฟล์ทเสร็จ ก็ต้องกลับไปรับพี่ชายที่บ้าน มาส่งเขาที่สนามบินดอนเมือง
ไฟล์ทวันนี้เป็นลูกค้าประจำบินแวะมาเติมน้ำมัน ผู้โดยสารบนเครื่องเป็นประธานาธิบดีประเทศเบนิน
เครื่องมาลงตอนตี 5 กว่าๆ เติมน้ำมัน โหลดอาหาร ทำส้อม เติมน้ำ เสร็จราวๆ 7 โมงเช้า
@ หน้าเหนื่อยสุดๆ @
@ ระหว่างรอเครื่องลง @
@ ตีห้ากว่าๆ แต่ทำไมสว่างจัง?@
ระหว่างที่จัดการกับเครื่อง แอร์เขาอยากได้อาหารเพิ่ม ประมาณว่าอาหารที่เขาสั่งมันไม่พอ
แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำอาหารที่เขาสั่งเพิ่มทันเวลาภายใน 1 ชั่วโมง
เราก็อธิบายไปว่า ไม่ทัน เพราะอาหารต้องสั่งทำที่สุวรรณภูมิ
ระยะทางการเดินทางกินเวลาไปเกือบชั่วโมงแล้ว กว่าจะเข้าใจ เล่นเอาเหนื่อย
คือ แอร์เขาเข้าใจว่าอาหารสั่งทำที่ดอนเมือง คงคิดว่าดอนเมืองคงพร้อมทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อน
หลังจากเสร็จจากไฟล์ท มินีรีบขับรถกลับบ้านไปรับพี่ชายที่บ้านมาขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองต่อเลย
กลับไปถึง เห็นพี่ชายยืนล้างจาน มินีถามว่ากินอาหารเช้าแล้วหรอ? เขาบอกว่าเรียบร้อย
เขาต้มน้ำกินกาแฟเสร็จสรรพ แหม! อย่างนี้ก็ทิ้งบ้านให้เขาได้เลยนะเนี้ย!!
ส่งเขาขึ้นเครื่องเรียบร้อย มินีก็กลับไปทำงานต่อเลย วันนั้นรู้สึกเพลียมากเลย
@ กำลังคุยโทรศัพท์ หนุงหนิงกับแฟนเลย @
ตอนนี้ทางบ้านที่นราฯ เตรียมต้อนรับพี่ชายคนนี้ มิอิลเองก็ไม่เคยเจอกับพี่ชายคนนี้
คุณอลันเลยพามิอิลไปเจอพี่ชายคนนี้ที่บ้านมินีที่นราฯ
รอพี่ชายลงเครื่องแล้วแวะมาเจอญาติที่มารอรับที่บ้านมินี
@ Tango คุยกับมามา ระหว่างรอพี่ชายแดนไกล
อิลโชว์ว่ากินขนมดือแฆ ขนมโดนัทพื้นเมืองแดนใต้ @
คุยกับมิอิลเสร็จก็มาจัดการกับอาหารที่ offload จากเครื่องที่เราทำไปเมื่อเช้านี้
อาหารนี้เขาใช้เสริฟประธานาธิบดีประเทศเบนิน
โอเปฯ อย่างเราๆ ก็มีโอกาสได้กินสเต็กเนื้อนุ่นๆ กับเขาบ้างนะ
@ Beef Steak @
@ ผักเครื่องเคียง และของหวาน @
3 - 8 Mar 2013
มิอิลมาถึงกทมฯ วันที่ 3 มีนา ก็พาเข้าที่ทำงานเลย มินีแวะไปรับในเกท
อิลเหมือนเป็นหวัดนิดๆ เพราะอากาศที่นราฯ กับกทมฯ ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
ระหว่างที่รอช่วงที่คุณยายจะขึ้นมากทมฯ มิอิลต้องมาทำงานกับปาปามามาที่ออฟฟิตทุกวัน
ทุลักทุเลกันมากตั้งแต่เช้ายันค่ำ อาจจะเพราะมิอิลโตขึ้นเรื่อยๆ น้ำหนักตัวก็เยอะ
แต่อิลยังเดินเองไม่ได้สักที ปาปามามาต้องจูงเดิน อุ้มบ้าง ตัวก็หนักเหลือเกิน
ซนมาก ขนาดเดินไม่ได้ แต่ก็จะคลานไปเล่นทุกอย่างที่ขว้างหน้าเขา
@ มิอิลไม่สบาย แต่ก็ไม่ลางานนะคั๊ฟ @
@ รองเท้า แต่เอาใส่มือแล้วคลานแทนซะงั้น?!
@ Hello from DMK @
@ ตะวันจะตกดิน ณ สนามบินดอนเมือง @
@ ท่านั่งกินสตอเบอรี่ของเขา @
@ มาช่วยแม่นีส่ง Flight Plan @
@ My life at RSW's Office @
คืนวันที่ 7 มีนา หลังเลิกงานพวกเราแวะไปเยี่ยมหลานนาเดียที่โรงพยาบาลรามาฯ
น้องเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูก แต่น้องเขาโชคดีมีแม่ที่เข้มแข็ง มีกำลังใจ
มินีเชื่อว่ากำลังใจ ความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูก จะช่วยให้อาการของน้องดีขึ้นนะ
สู้ๆ นะ นะห์ เราต้องผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้
@ จอดรถไกล เลยต้องเดินไกลหน่อย @
@ ป๋มกำลังไปเยี่ยมพี่นาเดียคั๊ฟ @
@ หายไวๆนะนาเดีย อัลลอฮฺคุ้มครองน๊ะ @
9-12 Mar 2013
วันเกิดครบรอบ 33 ปี
วันที่ 9 เป็นวันที่มินีอายุครบ 33 ปีพอดีเลย
นี่เราใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เกินมาครึ่งชีวิตแล้วหรือนี่
ประสบการณ์ชีวิตตลอด 33 ปี ทำให้มินีแกร่งขึ้นมากจริงๆ
สิ่งที่มินีได้ประสบพบเจอทั้งเรื่องสุข และเรื่องทุกข์ สอนมินีได้เยอะ
อัลฮัมดุลลิละฮฺ ที่อัลลอฮฺได้ให้ชีวิตในแบบที่เราเป็น
มินีไม่ได้สุขที่สุด แต่ก็ไม่ได้ทุกข์ขั้นสุดเช่นกัน
ชีวิตดำเนินไปในหนทางที่พระองค์ประสงค์ พระองค์ได้ให้โอกาสเรา
ได้คิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตและปัจจุบันของเรา
รวมถึงให้เราได้วางแผนการใช้ชีวิตในอนาคตของเรา ในหนทางที่ถูกต้องด้วย
ปีนี้ได้รับคำอวยพรจากเพื่อนๆ ทาง Social Network , SMS น่ารักมากๆ
ขอบคุณที่มีน้ำใจให้กันมาโดยตลอด มินีขอให้คำอวยพรทั้งหลายที่เพื่อนๆ มอบให้
กลับไปยังเพื่อนๆทุกคน ให้มีความสุขในชีวิตเช่นกันค่ะ
วันนี้คุณยายจะกลับมากทมฯแล้วนะคั๊บ มิอิล!
ตอนแรกพวกเราแพลนจะไปรับคุณยายที่สนามบิน แล้วเลยไปรับของที่สถานีรถไฟบางซื่อ
แล้วช่วงเย็น ได้คุยๆกับคุณอลันว่า จะไปกินข้าวนอกบ้านกัน แต่จะเป็นที่ไหน
ต้องรอถามคุณยายว่าอยากกินอะไร แต่ทุกอย่างผิดคาด...มิอิลไม่สบายซะงั้น*_T
@ ข้อความจากสามี คนอื่นเห็น แต่เราไม่เห็นอ่ะ @
หลังจากที่มิอิลตื่นนอน กลับกลายว่าเขามีไข้สูง มินีเลยไม่ได้ออกไปรับคุณยายของอิล
อยู่เฝ้าไข้ดูอาการอิลที่บ้าน แล้วแพลนที่ว่างไว้ก็ต้องล้มเลิก บอกเลื่อนเดอะแกงซ์
เอาไว้เขาหายดีเมื่อไหร่ ค่อยนัดไปกินกันใหม่อีกที
@ งอแงเวลาไม่สบาย @
10 -12 Mar 2013
มิอิลยังคงมีไข้ตลอด กินยาลดไข้ก็ลดช่วงขณะหนึ่งเท่านั้น แล้วไข้ก็กลับมาอีก
เช้าวันที่ 10 ตอนที่นั่งทานข้าวเช้า แม่เอาของขวัญวันเกิดมาให้
แบบว่าเซอร์ไพส์มาก ไม่คิดว่าการที่แม่เดินเข้าเดินออกร้านทอง มาก่อนหน้านี้
เพื่อไปสั่งทำของขวัญให้เรานี้เองหรือนี่มินียังเคยคิดร้าย
หาว่าแม่เข้าไปขายทอง แล้วมีบ่นแม่ไปด้วย ขอโทษจริงๆนะค่ะ!!
@ The Balm Jovi @
@ ลองทาอายเชโดว์ของ The Balm แหม ! มันร๊อคได้ใจจริงๆ @
@ Thanks a lot @
แล้ววันนี้ช่วงบ่ายมินีต้องรีบกลับบ้าน เพราะแม่โทรมาบอกว่ามิอิลตัวเย็น มือเท้าเขียวไปหมด
มินีใจไม่ดี รีบกลับไปแล้วพามิอิลไปหาหมอที่โรงพยาบาล
ตอนไปถึงพยาบาลวัดไข้มิอิล ไข้มิอิลขึ้น 40 กว่าองศา เกือบช๊อคแล้ว
พยาบาลเลยบอกให้พามิอิลถอดเสื้อช่วยกันเช็คตัวใหญ่ เพื่อให้ไข้ลด
เช็คไปสักพัก ไข้ลดเหลือ 39.5 องศา ระหว่างที่เช็ค มิอิลมีผด ผืนขึ้นเต็มตัว
พบหมอ หมอให้เจาะเลือดตรวจไข้เลือดกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
รอผลตรวจประมาณ 1 ชั่วโมง แต่พยาบาลกับหมอก็เตรียมน้ำเกลือ
เผื่อว่าอิลอาจจะต้องนอนโรงบาล แต่ผลออกมา อิลเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่ออกหัด
เลยทำให้ไข้อิลสูงมาก หมอเลยถามว่าจะให้นอนโรงบาลมั้ย?
มินีเลยถามหมอว่าถ้าไม่หนักมาก มินีอยากให้กลับไปนอนบ้าน หมอก็โอเคให้กลับบ้านได้
วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมากๆ สุดๆ เลย แต่ก็ดีใจที่อิลไม่ได้เป็นอะไรหนัก
ทั้งๆที่ไข้สูงมากๆ หายไวๆนะคั๊ฟคนดีของมามา
รักทุกคนนะค่ะ....
เช้าตรู่วันที่ 2 มีนา มินีแลกตารางทำงานกับน้องที่บริษัทฯ
เพราะวันนี้พี่ชายที่อยู่สวีเดนจะกลับมาไทย
ไฟล์ทถึงตอนตี 5 กว่า มินีกับคุณอลันไปรอรับที่สุวรรณภูมิ
@ สั่งชาเขียวร้อน ระหว่างรอพี่ชาย @
เลยทำให้มินีต้องขับรถพาพี่ชายไปตะเวนกทมฯแทน ปรกติมินีไม่ค่อยชอบขับรถเท่าไรนัก
หลังจากที่รับพี่ชายจากสุวรรณภูมิมาที่บ้านมินีที่ดอนเมืองแล้ว
มินีจัดทำอาหารเช้าง่ายๆให้พี่ชายกับคุณอลัน
เพราะคุณอลันต้องรีบไปขึ้นเครื่องที่สนามบินต่อเลย
วันนี้พี่ชายมีโปรแกรมนอนค้างที่กทมฯ 1 คืน แล้วจะเดินทางกลับไปนราฯ วันรุ่งขึ้น
เลยมีโปรแกรมเดียว คือ พาพี่ชายไปเจอกับพี่สะใภ้กับหลานๆ ของเขาที่แฟชั่นไอร์แลนด์
คืนนั้นกว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาเข้าไป 4 กว่าไปแล้ว เส้นทางรามอินทรารถมันติดได้ใจจริงๆ
แต่พวกเราก็แวะไปกินก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด เจ้าประจำสมัยมินีเรียนหนังสือเมื่อ 10 ปีก่อน
ก่อนจะกลับเข้าบ้านหลังจากกลับถึงบ้าน มินีก็เตรียมตัวเข้านอนเลย
เพราะต้องตื่นตี 3 ไปทำงานต่อ เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ
เช้าวันที่ 3 มีนา เวลาประมาณตี 3 กว่า มินีตื่นมาอาบน้ำ เตรียมตัวไปทำไฟล์ท
เพราะหลังจากทำไฟล์ทเสร็จ ก็ต้องกลับไปรับพี่ชายที่บ้าน มาส่งเขาที่สนามบินดอนเมือง
ไฟล์ทวันนี้เป็นลูกค้าประจำบินแวะมาเติมน้ำมัน ผู้โดยสารบนเครื่องเป็นประธานาธิบดีประเทศเบนิน
เครื่องมาลงตอนตี 5 กว่าๆ เติมน้ำมัน โหลดอาหาร ทำส้อม เติมน้ำ เสร็จราวๆ 7 โมงเช้า
@ หน้าเหนื่อยสุดๆ @
@ ระหว่างรอเครื่องลง @
@ ตีห้ากว่าๆ แต่ทำไมสว่างจัง?@
ระหว่างที่จัดการกับเครื่อง แอร์เขาอยากได้อาหารเพิ่ม ประมาณว่าอาหารที่เขาสั่งมันไม่พอ
แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำอาหารที่เขาสั่งเพิ่มทันเวลาภายใน 1 ชั่วโมง
เราก็อธิบายไปว่า ไม่ทัน เพราะอาหารต้องสั่งทำที่สุวรรณภูมิ
ระยะทางการเดินทางกินเวลาไปเกือบชั่วโมงแล้ว กว่าจะเข้าใจ เล่นเอาเหนื่อย
คือ แอร์เขาเข้าใจว่าอาหารสั่งทำที่ดอนเมือง คงคิดว่าดอนเมืองคงพร้อมทุกอย่างเหมือนเมื่อก่อน
หลังจากเสร็จจากไฟล์ท มินีรีบขับรถกลับบ้านไปรับพี่ชายที่บ้านมาขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองต่อเลย
กลับไปถึง เห็นพี่ชายยืนล้างจาน มินีถามว่ากินอาหารเช้าแล้วหรอ? เขาบอกว่าเรียบร้อย
เขาต้มน้ำกินกาแฟเสร็จสรรพ แหม! อย่างนี้ก็ทิ้งบ้านให้เขาได้เลยนะเนี้ย!!
ส่งเขาขึ้นเครื่องเรียบร้อย มินีก็กลับไปทำงานต่อเลย วันนั้นรู้สึกเพลียมากเลย
@ กำลังคุยโทรศัพท์ หนุงหนิงกับแฟนเลย @
ตอนนี้ทางบ้านที่นราฯ เตรียมต้อนรับพี่ชายคนนี้ มิอิลเองก็ไม่เคยเจอกับพี่ชายคนนี้
คุณอลันเลยพามิอิลไปเจอพี่ชายคนนี้ที่บ้านมินีที่นราฯ
รอพี่ชายลงเครื่องแล้วแวะมาเจอญาติที่มารอรับที่บ้านมินี
@ Tango คุยกับมามา ระหว่างรอพี่ชายแดนไกล
อิลโชว์ว่ากินขนมดือแฆ ขนมโดนัทพื้นเมืองแดนใต้ @
คุยกับมิอิลเสร็จก็มาจัดการกับอาหารที่ offload จากเครื่องที่เราทำไปเมื่อเช้านี้
อาหารนี้เขาใช้เสริฟประธานาธิบดีประเทศเบนิน
โอเปฯ อย่างเราๆ ก็มีโอกาสได้กินสเต็กเนื้อนุ่นๆ กับเขาบ้างนะ
@ Beef Steak @
@ ผักเครื่องเคียง และของหวาน @
3 - 8 Mar 2013
มิอิลมาถึงกทมฯ วันที่ 3 มีนา ก็พาเข้าที่ทำงานเลย มินีแวะไปรับในเกท
อิลเหมือนเป็นหวัดนิดๆ เพราะอากาศที่นราฯ กับกทมฯ ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
ระหว่างที่รอช่วงที่คุณยายจะขึ้นมากทมฯ มิอิลต้องมาทำงานกับปาปามามาที่ออฟฟิตทุกวัน
ทุลักทุเลกันมากตั้งแต่เช้ายันค่ำ อาจจะเพราะมิอิลโตขึ้นเรื่อยๆ น้ำหนักตัวก็เยอะ
แต่อิลยังเดินเองไม่ได้สักที ปาปามามาต้องจูงเดิน อุ้มบ้าง ตัวก็หนักเหลือเกิน
ซนมาก ขนาดเดินไม่ได้ แต่ก็จะคลานไปเล่นทุกอย่างที่ขว้างหน้าเขา
@ มิอิลไม่สบาย แต่ก็ไม่ลางานนะคั๊ฟ @
@ รองเท้า แต่เอาใส่มือแล้วคลานแทนซะงั้น?!
@ Hello from DMK @
@ ตะวันจะตกดิน ณ สนามบินดอนเมือง @
@ ท่านั่งกินสตอเบอรี่ของเขา @
@ มาช่วยแม่นีส่ง Flight Plan @
@ My life at RSW's Office @
คืนวันที่ 7 มีนา หลังเลิกงานพวกเราแวะไปเยี่ยมหลานนาเดียที่โรงพยาบาลรามาฯ
น้องเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งกระดูก แต่น้องเขาโชคดีมีแม่ที่เข้มแข็ง มีกำลังใจ
มินีเชื่อว่ากำลังใจ ความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูก จะช่วยให้อาการของน้องดีขึ้นนะ
สู้ๆ นะ นะห์ เราต้องผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้
@ จอดรถไกล เลยต้องเดินไกลหน่อย @
@ ป๋มกำลังไปเยี่ยมพี่นาเดียคั๊ฟ @
@ หายไวๆนะนาเดีย อัลลอฮฺคุ้มครองน๊ะ @
9-12 Mar 2013
วันเกิดครบรอบ 33 ปี
วันที่ 9 เป็นวันที่มินีอายุครบ 33 ปีพอดีเลย
นี่เราใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้เกินมาครึ่งชีวิตแล้วหรือนี่
ประสบการณ์ชีวิตตลอด 33 ปี ทำให้มินีแกร่งขึ้นมากจริงๆ
สิ่งที่มินีได้ประสบพบเจอทั้งเรื่องสุข และเรื่องทุกข์ สอนมินีได้เยอะ
อัลฮัมดุลลิละฮฺ ที่อัลลอฮฺได้ให้ชีวิตในแบบที่เราเป็น
มินีไม่ได้สุขที่สุด แต่ก็ไม่ได้ทุกข์ขั้นสุดเช่นกัน
ชีวิตดำเนินไปในหนทางที่พระองค์ประสงค์ พระองค์ได้ให้โอกาสเรา
ได้คิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตและปัจจุบันของเรา
รวมถึงให้เราได้วางแผนการใช้ชีวิตในอนาคตของเรา ในหนทางที่ถูกต้องด้วย
ปีนี้ได้รับคำอวยพรจากเพื่อนๆ ทาง Social Network , SMS น่ารักมากๆ
ขอบคุณที่มีน้ำใจให้กันมาโดยตลอด มินีขอให้คำอวยพรทั้งหลายที่เพื่อนๆ มอบให้
กลับไปยังเพื่อนๆทุกคน ให้มีความสุขในชีวิตเช่นกันค่ะ
วันนี้คุณยายจะกลับมากทมฯแล้วนะคั๊บ มิอิล!
ตอนแรกพวกเราแพลนจะไปรับคุณยายที่สนามบิน แล้วเลยไปรับของที่สถานีรถไฟบางซื่อ
แล้วช่วงเย็น ได้คุยๆกับคุณอลันว่า จะไปกินข้าวนอกบ้านกัน แต่จะเป็นที่ไหน
ต้องรอถามคุณยายว่าอยากกินอะไร แต่ทุกอย่างผิดคาด...มิอิลไม่สบายซะงั้น*_T
@ มื้อเช้าในวันเกิดที่แสนจะธรรมดา @
@ ส่วนป๋มกินโยเกิรต์สำหรับเด็กคั๊ฟ @
ทานมื้อเช้าเสร็จ ปาปาก็ออกไปล้างรถ ส่วนมิอิลกับมามาก็นั่งพักผ่อน
เปิดบาร์นี่ให้มิอิลดู มิอิลติดบาร์นี่มากๆ
@ I love Barney @
หลังจากนั้นมิอิลก็ป๋อยหลับไป ส่วนมินีก็จัดการทำความสะอาดบ้าน
คิดเมนูทำมื้อเที่ยงก่อนจะออกไปรับคุณยายที่สนามบิน
มาลงเอยที่พาสต้า เพราะรื้อลิ้นชักในครัวเจอเส้นพาสต้า ในตู้เย็นมีเนื้อสับ
มีพริกหวานอยู่นิดนึง จนได้เมนูพาสต้าเนื้อสับซอสมะเขือเทศ
@ พาสต้าเนื้อสับซอสมะเขือเทศ @
ระหว่างที่นั่งกิน ได้รับข้อความจากเดอะแกงซ์ที่ส่งมาอวยพรวันเกิด
เดอะแกงซ์ถามว่าจะไปเลี้ยงที่ไหน ตอนนั้นมิอิลยังหลับ แล้วก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะไม่สบาย
ตั้งใจจะช่วยเดอะแกงซ์ไปกินข้าวนอกบ้านพร้อมกับคุณยาย
แต่เราแอบบ่นกับเดอะแกงซ์ว่า สามีเราลืมวันเกิด
สมาชิกเดอะแกงซ์เลยส่งข้อความว่าสามีเราอวยพรผ่านเฟสแล้ว ให้เรากลับไปอ่าน
แต่มินีหาไม่เจอจริงๆ และที่สำคัญ สามีส่งข้อความมาหลังจากที่เราถามเขาว่าลืมวันเกิดเราใช่มั้ย?
เขาทำหน้าเอ่อๆ งงๆ แบบว่าฉันลืมไปจริงๆ แต่จริงๆแล้วมินีก็ไม่ได้คิดน้อยใจอะไร
แค่เห็นข้อความจากเพื่อนๆส่งมาเรากันเยอะมาก เลยแอบอยากเห็นข้อความจากสามีเป็นคนแรกๆ
ก็เท่านั้นเอง เขาอาจจะลืมจริงๆ เพราะ ณ ตอนนี้เราสองคนโฟกัสแต่เรื่องของลูกมากกว่า
@ ข้อความจากสามี คนอื่นเห็น แต่เราไม่เห็นอ่ะ @
หลังจากที่มิอิลตื่นนอน กลับกลายว่าเขามีไข้สูง มินีเลยไม่ได้ออกไปรับคุณยายของอิล
อยู่เฝ้าไข้ดูอาการอิลที่บ้าน แล้วแพลนที่ว่างไว้ก็ต้องล้มเลิก บอกเลื่อนเดอะแกงซ์
เอาไว้เขาหายดีเมื่อไหร่ ค่อยนัดไปกินกันใหม่อีกที
@ งอแงเวลาไม่สบาย @
10 -12 Mar 2013
มิอิลยังคงมีไข้ตลอด กินยาลดไข้ก็ลดช่วงขณะหนึ่งเท่านั้น แล้วไข้ก็กลับมาอีก
เช้าวันที่ 10 ตอนที่นั่งทานข้าวเช้า แม่เอาของขวัญวันเกิดมาให้
แบบว่าเซอร์ไพส์มาก ไม่คิดว่าการที่แม่เดินเข้าเดินออกร้านทอง มาก่อนหน้านี้
เพื่อไปสั่งทำของขวัญให้เรานี้เองหรือนี่มินียังเคยคิดร้าย
หาว่าแม่เข้าไปขายทอง แล้วมีบ่นแม่ไปด้วย ขอโทษจริงๆนะค่ะ!!
@ จี้เพชร ของขวัญจากคุณแม่ @
แล้ววันนี้พูดกับแม่ว่าอยากกินปลาหมึกยัดไส้ หรือตูปะซูตง อาหารหวานเมืองใต้
แม่ก็ลงมือทำให้กินเลย เพราะคุณแม่อุตสาห์ขนเอาปลาหมึกไข่สดๆ มาจากนราฯ
@ ตูปะซูตง @
วันที่ 11 ไปทำงานตอนเช้าแบบเบลอๆ เพราะไม่ได้นอนเลย
ต้องตื่นมาเช็ดตัวให้อิลตลอดทั้งคืน
เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ มีเซอร์ไพส์เราเอาของขวัญไปซ่อนไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงาน
พอเราเปิดออกมาเห็นเป็นถุงกระดาษ แต่มินีไม่รู้เลยว่าข้างในคืออะไร
ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นกระเป๋า แต่มันคือ เครื่องสำอางยี่ห้อนึงที่กำลังฮิตมาก
"The Balm" มินีได้คอเลคชั่นแนวร๊อค The Balm Jovi
สีข้างในสวยมาก ที่สำคัญทาแล้วสวย เนียน สีติดทนดีจริงๆ
ชอบมากๆเลย ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะค่ะ
@ The Balm Jovi @
@ ลองทาอายเชโดว์ของ The Balm แหม ! มันร๊อคได้ใจจริงๆ @
@ Thanks a lot @
แล้ววันนี้ช่วงบ่ายมินีต้องรีบกลับบ้าน เพราะแม่โทรมาบอกว่ามิอิลตัวเย็น มือเท้าเขียวไปหมด
มินีใจไม่ดี รีบกลับไปแล้วพามิอิลไปหาหมอที่โรงพยาบาล
ตอนไปถึงพยาบาลวัดไข้มิอิล ไข้มิอิลขึ้น 40 กว่าองศา เกือบช๊อคแล้ว
พยาบาลเลยบอกให้พามิอิลถอดเสื้อช่วยกันเช็คตัวใหญ่ เพื่อให้ไข้ลด
เช็คไปสักพัก ไข้ลดเหลือ 39.5 องศา ระหว่างที่เช็ค มิอิลมีผด ผืนขึ้นเต็มตัว
พบหมอ หมอให้เจาะเลือดตรวจไข้เลือดกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
รอผลตรวจประมาณ 1 ชั่วโมง แต่พยาบาลกับหมอก็เตรียมน้ำเกลือ
เผื่อว่าอิลอาจจะต้องนอนโรงบาล แต่ผลออกมา อิลเป็นไข้หวัดธรรมดา แต่ออกหัด
เลยทำให้ไข้อิลสูงมาก หมอเลยถามว่าจะให้นอนโรงบาลมั้ย?
มินีเลยถามหมอว่าถ้าไม่หนักมาก มินีอยากให้กลับไปนอนบ้าน หมอก็โอเคให้กลับบ้านได้
วันนี้เป็นวันที่เหนื่อยมากๆ สุดๆ เลย แต่ก็ดีใจที่อิลไม่ได้เป็นอะไรหนัก
ทั้งๆที่ไข้สูงมากๆ หายไวๆนะคั๊ฟคนดีของมามา
รักทุกคนนะค่ะ....
No comments:
Post a Comment