Time 10:29LT
@ FlyawayMinee's House
Temp 29C.
ก่อนที่จะเล่าเรื่องวันนี้เมื่อปีที่แล้ว
ขอเล่าเรื่องมิอิลไปรับรองเท้าพิเศษก่อนนะค่ะ
วันนี้มีธุระต้องทำเยอะแยะเลย
เริ่มจากที่ทางโรงพยาบาลบีแคร์นัดมิอิลทำกายภาพแต่เช้า
วันนี้เลยต้องออกจากบ้านตอนเช้าพร้อมกันหมด
ตอนแรกตั้งใจจะแวะไปส่งปาปาที่ทำงานก่อน
แต่พวกเราออกจากบ้านเลท (ตามเคย)
เลยให้ปาปาลงที่สถานีรถไฟดอนเมือง
ปาปานั่งรถเมล์ต่อไปเอง ส่วนแม่นีกับมิอิลมุ่งหน้าไปบีแคร์ทันที
ไปถึงที่โรงพยาบาลเลทไป 10 นาที (ขาดทุนเลย)
แต่นักจิตวิทยา และนักกายภาพก็นั่งรออยู่แล้ว
เสร็จจากทำกายภาพ แวะเข้าบ้านและแวะรับปาปาที่ทำงาน
ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปจุฬาฯกันต่อเลย วันนี้มิอิลมีนัดรับรองเท้า
รองเท้าของอิลอิล
รองเท้านี้ ถูกออกแบบมาเพื่อรูปเท้าของมิอิลโดยเฉพาะ
ก่อนที่จะตัดรองเท้าคู่นี้ คุณหมอต้องตรวจดูรูปกระดูกของมิอิลก่อน
ซึ่งได้มาตรวจเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว คุณหมอสรุปว่า
มิอิลมีรูปเท้าแบน แล้วเบี้ยว ทั้งสองข้าง แต่ข้างซ้ายจะเบี้ยวมากกว่า
คุณหมอเลยสรุปให้ตัดรองเท้าคู่นี้ ซึ่งทางคุณหมอให้สั่งทำแผ่นรองรองเท้า
ให้เข้ากับรูปเท้ามิอิล แล้วทรงของรองเท้าคู่นี้ จะช่วยล็อคข้อเท้า
เพื่อที่มิอิลจะสามารถเดินเองได้เร็วขึ้น และปลอดภัยต่อกระดูกข้อเท้า
รองเท้าคู่นี้มีราคาถึง 1,530 บาท แต่ด้วยริสกีที่อัลลอฮฺให้
แม่นีไม่ต้องจ่ายตังค์ค่ารองเท้านี้เลย ทางโรงพยาบาลให้เข้าโครงการ
"แก้วตาใจ"ต้องขอบคุณโครงการดีๆแบบนี้มากๆค่ะ
วกมาเข้าเรื่อง "วันนี้เมื่อปีที่แล้ว"
22 ตุลาคม 2554 ตรงกับวันนี้ 22 ตุลาคม 2555
วันนี้เมื่อปีที่แล้ว เป็นวันสุดท้ายที่พ่อใช้ชีวิตอยู่กับเราที่กทมฯ
วันนี้เมื่อปีที่แล้ว พ่อ แม่ สามี มิอิล และเราต้องอพยพออกจากบ้าน
ตอนตีสอง เพราะน้ำที่ท่วมเข้ามาในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว
วันนี้เมื่อปีที่แล้วก่อนที่จะอพยพออกจากบ้าน
พวกเราได้ทำเมนูอาหารที่พ่อโปรดมากๆ
"ปลาแซลมอนกับสลัดผัดสด"
พ่อชอบปลาแซลมอนมากๆ จริงๆ พ่อเป็นคนชอบทานปลา
แต่ปลาแซลมอนนี้เป็นปลาที่พ่อชอบมากที่สุด
คืนนี้เมื่อปีที่แล้วพ่อก็ไม่เชื่อว่าน้ำจะท่วมบ้านที่อยู่
จนตอนตีสองยามมากดกริ๊งหน้าบ้านบอกให้เราเตรียมตัว
เพราะน้ำท่วมเข้ามาในหมู่บ้านแล้ว
พวกเราเตรียมขนกระเป๋าออกจากบ้านทันที
เราได้จัดของเตรียมไว้แล้วล่ะ เพราะเชื่อว่ายังไงน้ำมาแน่ๆ
พวกเราหนีออกมาพร้อมลุยน้ำท่วมเท่าหน้าแข้ง ณ เวลาตีสอง
แม่เล่าให้ฟังว่าคืนนั้นพ่อกลัวเบาะนอนจะเปียกน้ำ
เลยยกเตียงพิงข้างฝาแล้วยกที่สปริงนอนขนาด 5 ฟุต
ตั้งบนตียงอีกที พอพ่อยกเสร็จพ่อต้องกินยาอมใต้ลิ้้น
พ่อหายใจไม่ทัน พ่อเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว
พวกเราหนีน้ำไปนอนที่สนามบินดอนเมือง แล้วช่วงสายๆ
พ่อ แม่ มิอิล บินกลับนราธิวาสทันที เหลือแค่เรากับสามีที่ยังอยู่กทมฯ
ก่อนที่จะขับรถหนีน้ำกลับนราธิวาสหลังจากวันนั้น 4 วันต่อมา
และเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราทำเมนูที่พ่อชอบด้วยความบังเอิญ
พอนั่งกิน เลยทำให้เรานึกถึงพ่อ แล้วทำให้นึกถึงเรื่องราวในวันนั้นได้ดี
เลยจุดประกายอยากเขียนเอนทรี่นี้มาแชร์กัน
ใครอยากลองทำเมนูนี้ ลองดูภาพประกอบได้เลยนะค่ะ
หมักเนื้อปลากับเกลือ ซอสถั่วเหลือง พริกไทย
ทอดกับน้ำมันมะกอกเลยจ้า
มันฝรั่งต้มสุก
ต้มมันฝรั่งระหว่างทอดปลา สุกแล้วปอกเปลือกกันจ้า
จัดผักสลัดที่ชอบลงจานตามชอบ
ปลาสุกพร้อม สลักผักพร้อม น้ำราดพร้อม
น้ำราด แม่นีดัดแปลงเองนะค่ะ จริงๆ ต้องเป็นมายองเนสสีขาวๆ
แต่เราอยากให้รสชาดแปลกใหม่ เลยใช้นมสดมาต้มกับน้ำซุปปรุงรสด้วย
เกลือ พริกไทยดำ ใส่ครีมนิดนึง มะนาวหน่อย ออกมาเป็นสีน้ำตาล
คล้ายๆ น้ำราดเกรวี่ อิอิ ชอบๆๆ อร่อยดี
ทุกคำที่กิน ก็คิดถึงพ่อ พ่อชอบมาก เรารู้ว่าพ่อชอบมากจริง
ฝากอีกเมนูนึง เพิ่งหัดทำ ได้แรงบันดาลใจจากบล็อคพี่โอ๊ต
ขออนุญาตมาแชร์ในพื้นที่เล็กๆแห่งนี้นะค่ะพี่โอ๊ต
"มันบดผสมปลาบดทอด"
บดปลากับมันฝรั่ง ปรุงรสด้วยเกลือ
ปั้นเป็นก้อนแบนๆ แล้วเอาไปทอดกับน้ำมันมะกอก
เสร็จแล้ว มิอิลชอบมากๆ
ถ้าพ่อยังอยู่ พ่อก็คงชอบเมนูนี้
คิดถึงพ่อจัง!
No comments:
Post a Comment