iTime

Sunday, May 26, 2013

@^^ทำไฟล์ทเครื่องบินลำใหม่ของ Sands + กลับไปเยี่ยมสมาชิกสนิทวาทีคนใหม่ที่นราธิวาส^^Working With Sands's New Airplane + Welcome To The New Member Of Snitwatee's Family^^@

26 May 2013
@ Hangar 4426, DMK Airport
Time 14:30LT
Temp 34C.


14-21 May 2013
เดินทางกลับนราธิวาสด้วยรถยนต์ส่วนตัว 
แต่ก่อนกลับก็ต้องเคลียร์งานที่ออฟฟิตให้เรียบร้อยก่อน

ก่อนวันเดินทางกลับก็วุ่นๆกับการทำงาน ไหนจะเตรียมจัดของที่จะเอากลับบ้าน
สัปดาห์นั้นทั้งสัปดาห์เลยวุ่นวายมากๆ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี


13 May 2013
ทำไฟล์ท LasVegas Sands ด้วยเครื่องบินลำใหม่ BBJ


 @ ดอกไม้สวยๆ หน้าบ้าน @

เริ่มต้นทำงานวันนี้ด้วยความสดใส ออกจากบ้านเพื่อไปทำงานด้วยความสดชื่น
ของดอกไม้ที่บานเต็มหน้าบ้าน เก็บภาพสักหน่อยนึง

ไฟล์ทนี้ทาง Sands ได้พานักเสี่ยงโชคมาไหว้พระพรหมตรงเอราวัณ โดยมากับเครื่องบินส่วนตัว
แบบ Boeing 737-800 BBJ เป็นเครื่องลำใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในฝูงบินของ Sands
ไฟล์ทขาเข้า มินีประจำการที่ออฟฟิต ไฟล์ทเรียบร้อยดี 
น้องแอร์โฮสเตสที่เคยทำงานด้วยกันเอาขนมมาฝากด้วย

 @ มาการองจากโรงแรมมารีนา สิงค์โปร์ @

ส่วนไฟล์ทขาออก มินีออกไปทำไฟล์ทที่เบย์ อากาศร้อนมาก แต่ก็ยังคงสนุกกับงานเหมือนเดิม
นักบินน่ารัก มีแซวว่ามินีพูดอาราบิคได้ใช่มั้ย? มินีตอบไปว่าพูดไม่ได้ค่ะ เขาร้องอ้าว!!
คิดว่าทางบริษัท รับชาวอาหรับมาทำงานที่นี่สักอีก อิอิ

@ ระหว่างรอผู้โดยสารมา มินียืนดูความเรียบร้อยข้างๆ ของเครื่องบิน @

ไฟล์ทนี้ออกตามเวลา ไม่ดีเลย์เลย ดีมากๆ งานเราจะได้เสร็จไวๆ 
พรุ่งนี้จะได้ขับรถกลับบ้านนราธิวาสแล้วว ดีใจที่สุดเลย

@ Ready For Taxi @



14 May 2013
เช้าวันนี้ตั้งใจจะตื่นตีสี่ออกเดินทางจากกทมไปนราธิวาสประมาณตีห้า
แต่ที่ไหนได้ มินีตื่นตีห้าครึ่ง กว่าจะจัดแจงเก็บข้างของของลูก ตัวเองและสามี
เสียเวลาไปตั้งเยอะ ออกเดินทางจริงก็ประมาณเจ็ดโมงเช้าแล้ว
ด้วยวันนี้เป็นวันทำงาน พวกเราออกกันสาย เลยติดอยู่บนทางด่วนนิดหน่อย
กว่าจะหลุดจากกรุงเทพได้ก็แปดโมงกว่าๆ แล้ว
พวกเราตั้งใจจะถึงนราธิวาสไม่เกินสี่ทุ่ม ยอมรับว่าค่อยข้างกลัวกับสถาณการณ์ ณ ตอนนี้
พวกเรามีเด็กเดินทางมาด้วย เลยเป็นกังวลใจตลอดทางเลยค่ะ
แต่พวกเราก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพตอนสามทุ่มครึ่ง


@ มุ่งสู่ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช @


 @ ใช้ความเร็วแค่ 130 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง @


@ ธรรมชาติข้างทางที่สวยงาม @


 @ เล่นซนจนหลับ @

ตลอดทางจากกรุงเทพจนเกือบถึงพัทลุง ไม่เจอฝนเลย ขับรถแบบทำเวลาได้มาก
แต่พอเข้าเขตพัทลุง ฝนเทลงมาอย่างหนัก วางแผนไว้ว่าถ้ายังคงตกแบบนี้ถึงหาดใหญ่ 
มินีคงค้างที่หาดใหญ่ แล้วค่อยเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น
แต่ท่านก็เป็นใจ ฝนตกไม่นาน พวกเราเลยตัดสินใจขับรถต่อไปนราธิวาสทันที


@ ฝนเทกระหน่ำ ณ พัทลุง @

ถึงนราธิวาสราวๆ สามทุ่มครึ่ง ก่อนเข้าบ้านแวะซื้อข้าวกินก่อน 
ตอนนี้ข้าวของที่นราธิวาสแพงกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆ
ถึงบ้านก็จัดแจงข้าวของที่ขนกลับมาจากกรุงเทพ กินข้าวมื้อดึกแล้วก็นอนหลับเป็นตายเลย


15 May 2013
เดินทางไปยะลา เพื่อไปรับพี่สะใภ้กลับบ้านที่ไปคลอดหลานคนล่าสุดของเรา
พวกเราใช้เส้นทางใหม่จากนราธิวาส-ยะลา วิ่งผ่านป่าเขาสูงใหญ่ เส้นทางคดเคี้ยว ชวนเวียนหัวมาก

@ เดินทางไปยะลา @

ถึงที่โรงพยาบาลศูนย์แม่และเด็ก จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆของพี่สะใภ้ พร้อมรับหลานกลับบ้าน
หลานคนล่าสุดของมินี หน้าตาเหมือนพ่อมาก น่าเสียดายที่พ่อไม่ได้อยู่ดูลูกตัวเองตอนคลอด
ติดภาระกิจ ณ ต่างประเทศ คงได้เจอลูกอีกทีตอนลูกโตเลยมั้งเนี่ย !

 @ ป๋ม เด็กชายฟิรเดาว์ @


 @ หน้าป๋มเหมือนคุณพ่อมั้ย @


@ เล่นกล้อง @


16 May 2013
มินีเดินทางไปเยี่ยมคุณยายที่อำเภอจะแนะ คุณยายแก่ขึ้นเยอะมาก แต่ก็ยังคงแข็งแรง
แต่ท่านมีอาการปวดข้อเข่า เดินขึ้นบันไดไม่ค่อยไหวแล้ว
มินีอยู่ทานข้าวเที่ยงกับคุณยายด้วย ดูท่านจะเจริญอาหารเป็นพิเศษ(หรือว่าเราคิดไปเอง?)

ช่วงบ่ายๆ มินีก็ขอตัวกลับบ้าน ก่อนกลับก็ให้สตางค์คุณยายไปนิดหน่อย
คุณยายเองก็ให้สตางค์มิอิลด้วย เหมือนกัน
หลังจากลาคุณยายกลับบ้าน ระหว่างทางก่อนถึงบ้านมินี มินียังคุยๆกับคุณสามีเลยว่า
อยากจะมาเยี่ยมอาเดย์ ได้ข่าวว่าท่านไม่ค่อยสบาย คุณสามีรับปากแต่ขอกลับไปบ้านก่อน
เดี๋ยวค่อยไปบ้านอาอีกที แต่ที่ไหนได้ มินีกลับถึงบ้านเห็นมอเตอร์ไซค์ของอาจอดอยู่
แม่บอกว่าอาเดย์เขาแข็งแรงแล้ว ขี่มอเตอร์ไซค์เองได้แล้ว
คุณอามาเยี่ยมหลานฟิรเดาว์ แต่หน้าตาคุณอายังซีดๆอยู่ มินีอยู่คุยกับอาไม่นาน
สักพักอาขอตัวกลับบ้าน มินีเดินตามไปส่งอาที่รถมอเตอร์ไซค์ ยังคุยกับอาเลยว่า 
อาดูแข็งแรงกว่าเดิมที่มินีเคยไปเยี่ยมเมื่อคราวก่อนเยอะมาก
อาก็ตอบมินีว่า ใช่ๆ อาแข็งแรงแล้ว คุยกันไม่นานอาขอตัวกลับบ้าน ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป
แต่หารู้ไม่ว่า นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่มินีได้คุยและได้เห็นอาเดย์
เพราะอาเดย์เพิ่งจากไปอย่างสงบเมื่อวันศุกร์ที่ 24 พ.ค.56 ที่ผ่านมานี่เอง
ตกใจ และเสียใจมาก พ่อมินีเพิ่งจากไปได้แค่ปีกว่าๆ นี่น้องชายของพ่อก็จากไปอีกคนแล้ว


17 May 2013
พาหลานๆไปหาดใหญ่


@ ณ โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ @

ไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ที่ป่วยต้องผ่าตัดหัวใจที่โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่
หลังจากนั้นก็พาหลานๆไปกินไก่เคเอฟซี หลานๆเรียกร้อง
แต่มินีอยากบอกว่า เบื่อไก่มากๆๆ
แต่ก็ต้องจำใจพาเขาไปกิน สงสารหลานๆ ตั้งแต่พ่อของเขาไปต่างประเทศ
หลานๆ ไม่ได้ออกไปไหนเลย คงเหงา เบื่อ และคงคิดถึงพ่อเขามาก
กินไก่เสร็จ พาหลานๆไปช็อปอุปกรณ์เครื่องเขียน จำได้ว่าตอนเด็กๆ มินีชอบดูพวกดินสอกดมากๆ
แต่พ่อกับแม่ไม่ค่อยจะซื้อให้ ตอนนี้มีลูก มีหลานเอง อยากได้อะไรเกี่ยวกับการเรียน มินีจะซื้อให้เลย
ขากลับจากหาดใหญ่ ฝนตกหนักตลอดทาง แต่ก็ถึงบ้านไม่ดึกนัก

18-19 May 2013
วันพักผ่อนอยู่บ้าน ทำนู้นนี่นั้นไปเรื่อย
ถ่ายรูปเล่น เดินรอบบ้าน ได้คิดอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับชีวิตของเราในอนาคตข้างหน้า

 @ ดอกบัวของแม่ @







@ บ้านคอยฝน @

บ้านของพ่อ บ้านที่พ่อรัก และสร้างมากับมือของท่านเอง
บ้านดูโทรม เก่าไปเยอะมาก ตั้งแต่ที่พ่อจากไป ตอนนี้บ้านหลังนี้แถบจะไม่มีใครอยู่

ถ้าพี่สะใภ้กับหลานๆ บินตามไปอยู่กับพี่ชายคนโตของมินีที่เมืองนอก บ้านนี้คงไม่มีใครดูแล
และมินีเองคงต้องคิดทำอะไรสักอย่าง เพื่อได้กลับมาดูแลบ้านหลังนี้ให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง


 @ เจ้าเจนนี่ @


@ สัตว์เลี้ยงตัวเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ที่บ้าน @


20 May 2013
วันนี้เป็นวันส่งท้ายที่จะอยู่บ้าน เพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ แล้ว
ช่วงค่ำๆ เลยพาพลานๆไปกินไอติมที่ร้านเหมือนฝัน ร้านดังในตัวเมืองนราธิวาส









@ บรรยากาศในร้าน @














อาหารโดยรวมอร่อย แต่ราคาค่อนข้างสูงไปนะค่ะ ตอนจ่ายตังค์ คิดว่าอยู่กทมซะอีก
ราคาอาหาร เครื่องดื่มพอๆกับค่าครองชีพที่กทมเลย
นราธิวาสเปลี่ยนไปมากจริงๆ แต่ได้เห็นหลานกินอิ่มอร่อย ก็ดีใจแล้ว



21 May 2013
Time to back to Bangkok

วันนี้ต้องออกเดินทางกลับไปกรุงเทพแล้ว กลับไปแห่งโลกความเป็นจริง
กลับมาทำงานที่ต้องรับผิดชอบ ออกเดินทางค่อนข้างสาย
เพราะญาติคุณสามีขอเดินทางไปด้วย ดีที่ญาติคนนี้ช่วยขับรถให้ 
เพราะคุณสามีกับมินีไม่ชอบขับรถตอนกลางคืนสักเท่าไรนัก

ระหว่างทางที่เดินทางกลับตั้งแต่สุราษฏ์ฯถึงประจวบ ไฟดับตลอดทางเลย
ตอนที่แวะเติมน้ำมันที่สุราษฏ์ฯ ไฟติดๆดับๆ ดีที่เติมได้เต็มถังก่อนที่ไฟจะดับยาวเลย
เพิ่งมารู้ข่าวจากหน้าฟีดของเฟสบุคว่าไฟดับทั่วภาคใต้ 14 จังหวัดเลยไฟดับการเมืองชัดๆ 




ถึงกรุงเทพฯตอนประมาณห้าทุ่มกว่าๆ ถึงบ้านก็เที่ยงคืนนิดๆ

ทริปนี้เหนื่อยมาก เหนื่อยตรงขับรถทางไกลระยะทาง 2,320 กิโลเมตร
จากดอนเมือง-นราธิวาส-ดอนเมือง
แต่ก็มีความสุขมากๆ เช่นกัน ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ได้คิด 
ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆรอบๆตัวได้สัมผัสความสุขแบบไม่วุ่นวาย 
ได้กินอาหารที่คุ้นเคย ได้ไปเจอคุณยาย ญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่

แล้วฉันจะหาทางกลับไปตั้งรกรากที่นราธิวาส อินชาอัลลอฮฺ



ปล. เมื่อคืนไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ครบ 100 ปี โรงเรียนนราธิวาส
เอนทรี่หน้าเดี๋ยวกลับมาเล่าให้ฟังนะค่ะ


v
v
v
v

อีกหนึ่งเพลงโปรดของคุณชายหมอ

No comments: