Time 19:43
@ FlyawayMinee House
Temp 32 C., -RA
5 Aug 2012
เมื่อคืนหลังจากที่ละศีลอดเรียบร้อยแล้ว
มีเวลาอ่านหนังสือ The little prince ให้มิคาอิลฟังได้นิดหน่อย
เจ้าหนูน้อยก็พลอยหลับไป ทั้งๆ ที่ยังไม่อ่านไม่จบหน้าแรกด้วยซ้ำ
เจ้าหนูน้อยก็พลอยหลับไป ทั้งๆ ที่ยังไม่อ่านไม่จบหน้าแรกด้วยซ้ำ
เจ้าชายน้อย The Little Prince
หลังจากที่ลูกหลับไปแล้ว คุณสามีมานอนข้างๆ เราแล้วถามมินีว่า
จำได้มั้ยว่าเมื่อวานเป็นวันอะไร?
เรานึกอยู่นาน วันอะไรว่ะ??
"4 สิงหา วันครบรอบแต่งงานของเรา"
เราลืมไปได้ไงเนี้ย ปรกติวันสำคัญแบบนี้ เราไม่เคยลืม
สามีเราเสียอีกที่ไม่เคยจะจำอะไรได้เลย แต่มาคราวนี้
เราลืมเสียเอง ไม่มีอะไรพิเศษ (เพราะลืม) แต่เหมือนจะมีอะไรพิเศษ
4 Aug 2012
สามีโทรหาเรา บอกให้เราเลิกงานไวหน่อยนะ
เห็นเราบ่นอยากกินอาหารญี่ปุ่น เขาจะพาไปกินแก้บวชที่นั้น
แล้วเลยไปละหมาดที่ศูนย์กลางฯ ด้วย
ไปถึงร้าน Aladin Sushi ประมาณเกือบ 6 โมงเย็น ร้านเขาไม่ใหญ่
ใครจำได้ที่เราเคยพาพ่อกับแม่ไปกินร้านนี้แล้ว เมื่อปีที่แล้ว
วันนั้นมีคนมาแก้บวชที่นี่กันเต็มร้าน เมนูใหม่ของที่ร้านก็จะมีชาบูชิ
แต่เขายกเลิกทำข้าวปั้นหน้าต่างๆ ไปชั่วคราว ซึ่งที่เรามาที่นี่ มินีอยากกินข้าวปั้นมาก
แต่ก็ไม่เป็นไร สั่งอยากอื่นมากินแทนก็ได้ มินีสั่งไปหลายเมนูมาก ที่สั่งก็จะมี
ชุดข้าวกุ้งเทมปุระ และคุณสามีสั่งชุดข้าวหน้าไก่ทอด ปลาซาบะย่างซีอิ้ว
ราเมงผัดทะเล อีกสองอย่าง จำไม่ได้แล้วว่าอะไรบ้าง
กินกัน 2 คน มิอิลมีแจมปลาซาบะย่างซีอิ้ว ดูท่าทางมิอิลจะชอบมาก
มินีพลาดอย่างมหันต์ที่ลืมจะถ่ายรูปอาหาร เพราะถึงเวลาแก้บวช ก็กินกันเลย
นึกอีกทีอาหารหมดแล้ว มีแต่รูปถ่ายตอนที่อาหารยังไม่มา ดูรูปร้านไปก่อนเนอะ
รูปอาหารจริงๆ ดูจากเรื่องเก่า Click Here ได้เลย
โต๊ะถูกจองเกือบเต็ม
โต๊ะของครอบครัวเรา ไม่ได้จอง แต่ดีที่ไปถึงไว เลยมีโต๊ะเหลือให้นั่ง
ร้านไม่ใหญ่มาก แต่ตกแต่งได้น่ารัก อบอุ่นดี
มิคาอิลซน จับใส่นาฬิกาเป็นแบบให้มามาซะเลย!
ทางร้านมีบริการอิทผลัมให้แก้บวชด้วย อัลฮัมดูลิลละห์
จูบปากเด็กคนนี้เสียบวชมั้ย? อิอิ
กินเสร็จ เรารีบขับรถไปมัสยิดที่ศูนย์กลางอิสลาม ตรงคลองตัน
เพื่อไปละหมาดตัรวียะห์ที่นั่น และอยากจะเจอเพื่อนด้วย
บรรยากาศสงบ จิตใจรวมเป็นหนึ่งเดียว
หลังละหมาดเสร็จ นั่งคุย เมาท์กับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เรียนหนังสือด้วยกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม
ดีใจมากที่ได้เจอกัน และคุยกัน คิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ตอนเรียนหนังสือด้วยกันเลย
คืนนั้นกว่าจะกลับถึงบ้านก็ 5 ทุ่มกว่าแล้ว มิคาอิลหลับบนรถ คงเหนื่อยน่าดู
ซึ่งคืนนั้นเราสองคนลืมไปเลยว่าเป็นวันพิเศษของเรา
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดาย หรือเสียใจอะไรเลยนะ
เนื่องจากวันนั้น มีสิ่งที่พิเศษที่เราสามคน พ่อ แม่ ลูก ได้กินอาหารที่อยากกินมานาน
ได้ไปมัสยิดที่เคยไปเป็นประจำทุกปีสมัยเรียน แต่พอมีลูก เริ่มๆ ห่างไป
ปีนี้ได้พามิคาอิลมาละหมาดที่นี้ด้วย มิคาอิลตื่นเต้นที่เห็นคนเยอะ
ได้ยินอีหม่านอ่านกรุอ่านเสียงเพราะๆ ตอนละหมาด มิคาอิลไม่ยอมนอนเลย
ได้เจอเพื่อนเก่า รุ่นพี่ แฟนรุ่นพี่ที่กำลังจะมีข่าวดีด้วยเร็วๆ นี้
ทั้งหมดนี้ก็ถือว่าพิเศษสุดสำหรับเราสองคนแล้ว
ไหนๆ ก็เขียนเรื่องครบรอบ 4 ปีแต่งงานแล้ว
ขอเขียนเรื่องครอบครัว ชีวิตคู่สักนิดนึงเนอะ
เมื่อ
4 Aug 2008
(ย้อนเล่าเรื่องแต่งงาน click link เลยค่ะ)
งานแต่งนี้เกิดขึ้นมาได้ เพราะบุคคลทั้ง 2 ที่เป็นรักยิ่งของมินี
จำได้ว่า เมื่อรู้ว่าต้องแต่งงาน ความรู้สึกตอนนั้นของเราสองคนคือ ยังไม่พร้อม
แต่ทางผู่ใหญ่เห็นว่าคบหากันมานาน น่าจะแต่งงานกันได้แล้ว
เราสองคนไม่ได้ขัดข้องอะไร แค่มีความรู้สึกว่ามันเร็วมาก เตรียมตัวไม่ทัน
พ่อกับแม่ของมินีบอกว่า เรื่องงานที่บ้านไม่ต้องห่วง เขาจะจัดการให้
เราสองคนมีหน้าที่ทำการ์ดแต่งงาน หาของชำร่วย ชุดแต่งงานแค่นั้นพอ
เราสองคนมีเวลาเตรียมการแค่เดือนกว่าๆ ไม่ได้ดูแลตัวเองอะไรเลย
กลับบ้านไปแต่งงาน เหมือนกลับไปช่วยงานบุญมากกว่า
แต่งานออกมาโอเคมาก มินีพิมพ์การ์ด 1,000 ใบ
มีผู้ร่วมแสดงความยินดีมากันเยอะมากตั้งแต่ 9 โมงเช้ายัน 3 ทุ่ม
เหนื่อยมาก แต่ก็ดีใจที่แขกที่มาร่วมงานมากมายขนาดนี้
แขกส่วนมากจะเป็นแขกของพ่อกับแม่มินี
ชุดนี้มินีดีไซด์เอง จ้างตัดราคาไม่กี่พัน ชอบมาก ใส่สบาย ไม่ร้อน
ส่วนชุดนี้ดีไซด์โดยร้าน โซเนีย ตัดให้มินีใหม่ ชุดสวย แต่ใส่แล้วร้อนมาก
ที่ต้องตัดใหม่ เพราะชุดในร้านไม่มีตัวไหนที่มินีใส่ได้เลย อิอิ เจ้าสาวตัวใหญ่มาก
เมื่อครั้นไป Honey Moon ที่สมุย
(ตามอ่านเรื่องนี้ได้ click link เลยค่ะ)
จากวันนั้น ถึงวันนี้ 4 ปีเต็มที่เราใช้ชีวิตร่วมกัน
มีทุกข์ มีสุขร่วมกัน คอยเป็นกำลังใจให้กันและกัน
มีลูกน้อยที่เราสองคนรักมากด้วยกัน
มินีขอโทษที่ผ่านมา ที่เคยก้าวร้าว เรื่องเตะหม้อ
และหลายๆ เรื่องที่เคยทำไม่ดีไว้ที่ผ่านมา สัญญาว่าจะใจเย็น
จะพยายามดูแลรักษาความรักของเราสองไว้ให้ดีตลอดไปนะ
และสัญญาว่าจะดูแลมิคาอิลให้ดีที่สุด
รักแบและมิคาอิลที่สุดเลย
No comments:
Post a Comment