Time 07:30LT
Hangar 4426
น้ำท่วมหมู่บ้าน
วันที่ 20 ตุลาคม 2011 เวลา ตี 2 กว่าๆ
ยามในหมู่บ้านมากดกริ๊งหน้าบ้าน พอเปิดประตูออกมา
ยามบอกว่าให้พี่ย้ายรถไปจอดไว้ที่สูง เพราะน้ำในคลองประปาสูงมาก
ทำถ้าเหมือนจะล้นมาท่วมบนพื้นถนน เพราะถ้าท่วมถนนเมื่อไหร่
น้ำต้องเข้ามาในหมู่บ้านเราแน่นอน
คุณสามีกับพ่อขับรถไปจอดที่สนามบินดอนเมือง คืนนั้นก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
แต่ก็ทำให้เราไม่แน่ใจกับสถานการณ์ของน้ำแล้ว เลยเตรียมขนของชิ้นใหญ่ไปไว้บนห้องนอนชั้นสอง
เช้าของวันนั้นมีนัดกับพี่ตุ้ม พี่สาวที่แสนดีมากๆ จากออสเตรเลีย
ที่บอกว่าดีมากๆ เพราะเขาเป็นแค่เพื่อนพี่สาวเราที่ซิดนีย์ แต่พอได้รู้จักคบหาเขาแล้ว
ไม่คิดว่าคนที่เป็นแค่คนรู้จักกันจะรักเราและครอบครัวของเรามากกว่าญาติพี่น้องของเราเสียอีก
ที่ต้องเอ่ยแบบนี้เพราะเขารักพ่อแม่เรา พี่น้องเรา ลูกเราอย่างจริงใจ
ถ้าเป็นไปได้ เราอยากให้เขาเป็นพี่น้องเราเลย เป็นญาติแท้ๆได้ยิ่งดี
หลังจากที่ไปเจอพี่ตุ้มเสร็จ เราก็มุ่งหน้ากลับบ้านไปเก็บของไว้ชั้นบนต่อ
ห้องนอน กลายเป็นห้องเก็บของไปแล้ว
วันที่ 21 ตุลาคม 2011 เวลา 02:00am
ยามมากดกริ๊งอีกครั้ง แล้วบอกว่า "พี่ครับ น้ำกำลังจะมาในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้านี้"
เรารีบไปเตรียมเก็บกระเป๋า ของใช้ของลูก (ซึ่งเราก็เตรียมตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว)
อุ้มลูกจากเตียง ไปสนามบินดอนเมือง เพราะเช้าลูกต้องบินกลับนราธิวาส
ทุรักทุเรมาก รถจอดอยู่ที่สนามบิน การเดินทางออกจากหมู่บ้านต้องเป็นมอเตอร์ไซค์อย่างเดียว
น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว แต่มอเตอร์ไซค์ยังขับได้อยู่ เกือบดับเหมือนกัน
รอบแรกสามีขี่มอเตอร์ไซค์เอาเรากับลูกออกนอกหมู่บ้านก่อน
รอบสองสามีขี่กลับไปรับพ่อต่อ และสุดท้ายก็ขี่กลับไปรับแม่ออกมา
จากนั้นเรานั่งแทกซี่ไปสนามบินดอนเมืองตอนตี 3
พวกเรานอนที่สนามบิน มิคาอิลคงเหนื่อยๆ แต่ก็ยังร่าเริ่งได้
ณ ขณะนั้น เขาคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง สงสารลูกเหมือนกัน
หลับไม่รู้เรื่องเลยว่าน้ำท่วมบ้านเราแล้ว
นอนรอเวลาที่จะได้ไปเช็คอินให้พ่อ แม่ และมิคาอิลกลับนราธิวาส
สบายใจที่ลูกเราได้ไปอยู่ที่ๆปลอดภัย ตอนนี้ก็หายห่วงแล้ว
ตอนนี้ห่วงแต่บ้านอย่างเดียวเลย
หลังจากนั้น เรากลับไปที่บ้านอีกที่ คราวนี้ น้ำท่วมในหมู่บ้านหนักเลย
ระหว่างทาง ตรงแยกถนนนาวงประชาพัฒนา
ทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มสู้ยอมรับกับเหตุการณ์
ขอให้น้ำลดไวๆ นะค่ะ
...God Blessed...
No comments:
Post a Comment