Temp 25 Degree Celciuse
@ Neo City Village
กลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ 3 อาทิตย์แล้ว
เราออกเดินทางจากนราธิวาสเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ทิ้งลูกไว้ที่บ้านให้คุณยายเลี้ยงก่อน
เพราะเราต้องเคลียบ้านที่โดนน้ำท่วมให้เรียบร้อยก่อนที่จะรับลูกกลับมาอยู่กับเรา
วันนั้นออกจากบ้านช่วงเที่ยง เพราะกะว่าจะได้มืดแล้วแวะนอนระหว่างทางที่ชุมพร
สาเหตุที่เราเดินทางวันที่ 30 พฤศจิกา ก็เพราะว่า วันที่ 2 ธันวา เรามีประชุมกับลูกค้ารายใหญ่
ซึ่งเราจะพลาดไม่ได้ รวมถึงเราจะโดน Audit จากลูกค้ารายนี้ด้วย แต่อยู่ๆ เขาดันมาเปลี่ยนแผน
ขอเลื่อนการประชุมให้เร็วขึ้น เป็นวันที่ 1 ธันวา เรานี้รีบบึ่งรถจากชุมพรเข้ากทมฯ
ตอนแรกคิดว่าจะไม่ทันซะแล้ว เพราะทางเข้ากทมฯ รถติดมาก แถมไปหลงบนทางด่วนอีก
แต่สุดท้ายก็ทัน แอบเหนื่อยเลย
ช่วงเย็นหลังประชุม ก็เลี้ยงอาหารค่ำกับกรุ๊ปที่มาออดิท เฮฮากันมาก
เพราะเราพาเขาไปกินอาหารไทยแท้ที่ร้านเรือนมัลลิกา
นั่งพับเพียบทานอาหารกัน แต่ละคนเข่าดีๆกันทั้งนั้น
นั่งพับเพียบทานอาหารกัน แต่ละคนเข่าดีๆกันทั้งนั้น
ช่วงสองอาทิตย์แรกที่มากทมฯ เรากับสามีไปอาศัยอยู่บ้านแพทตี้ เพราะบ้านตัวเองยังเข้าอยู่ไม่ได้
น้ำลดแล้ว แต่น้ำประปากับไฟฟ้าเขายังไม่เปิดให้ใช้ เราเลยเข้ามาดูบ้านเป็นระยะๆ
สภาพหมู่บ้าน และตัวบ้านของเราโทรมมาก เพราะยังไม่มีใครย้ายเข้ามาอยู่ เงียบ ร้างมากๆ
ถนนหน้าหมู่บ้าน
ทางเข้าบ้านของเรา
My outfit for flood fighting
มีปลาดุมานอนเป็นปลาแดดเดียวหลังบ้าน ตัวเบ้อเร้อเลย
เปิดบ้านมา เหม็นอับ เชื่อราเต็มฝาผนัง เห็นแล้วปวดหัวใจ และคงคิดว่า
ฉันเจองานช้างแล้ว เราช่วยกันเก็บของ ยกของในบ้านออกมาตั้งนอกบ้าน
แต่ก็นับว่าข้าวของของเราไม่เสียหายมากเท่าไหร่ เพราะเรายกของขึ้นไปชั้นสองเกือบหมด
ของที่เสียหายก็จะมีเตียงในห้องนอนของแม่ที่อยู่ชั้นล่าง เราขนขึ้นชั้นสองไม่ไหว เพราะหนักมาก
ช่วงที่ออฟฟิตยังเข้าไปทำงานไม่ได้ แต่งานโอเปเรชั่นของเรา มีไฟล์ทให้ทำอยู่ตลอดเวลา
ถึงแม้ว่าดอนเมืองยังไม่เปิดให้ใช้บริการ แต่เราก็มีไฟล์ทที่สุวรรณภูมิบ้าง ภูเก็ตบ้าง อู่ตะเภาบ้าง
v
v
v
v
to be continue เหนื่อยแล้ว....