iTime

Tuesday, May 5, 2020

~^^Cream Tart Cake (Alphabet Letter "K")^^ครีมทาร์ต เค้กวันเกิดเก๋ๆ ไม่ซ้ำใคร^^~

4 May 2020
Time 12:50LT
Temp 34C



นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเราและหลายต่อหลายคน
ที่ต้องอยู่ภายใต้การระบาดของโรค Covid-19 รวมๆแล้วก็เข้าเดือนที่ 5 แล้วนะ
หลายคนอาจจะพอทราบแล้ว่าเราได้ทำการลาออกจากงานประจำเพื่อที่จะมาทำงาน
กับลูกและเป็นแม่บ้านเต็มตัว และยังคงทำขนมขายตามที่ลูกค้า
มียอดสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนไม่น้อยเลย ต้องขอบคุณตัวเองที่ให้โอกาสกับตัวเอง
ในการตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำมาอย่างยาวนานเกินกว่า 15 ปี
มันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างมากมายเลยทีเดียว 
เดี๋ยวนีจะมาเขียน ช่วงเวลาที่ลาออกจากงานช่วงแรกๆ
ว่านีปรับตัวอย่างไรบ้าง รู็สึกยังไงที่ไม่มีงานประจำทำ
เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังเอนทรี่หน้านะคะ

มาเข้าเรื่องกันค่ะ วันนี้ภูมิใจเสนอขนมชิ้นนึง 
เนื่องจากมีเพื่อนบ้านสั่งให้นีทำเค้กวันเกิด
นีต้องยอมรับข้อนึงว่า นีแต่งหน้าเค้กไม่เก่งเลย 
คืองานที่ต้องใช้ความประณีตมากๆ นีมักทำออกมาไม่ค่อยดี
เลยบอกลูกค้าไปว่า นีแต่งหน้าเค้กไม่เก่ง ไม่ค่อยสวย
แต่ลูกค้าก็น่ารักมากเลยนะ บอกนีว่าเอาแบบอื่นๆก็ได้ 
เพราะเชื่อมือที่นีทำขนมแล้วรสชาติดี...
โห...ได้ยินแบบนี้แล้วนีแทบลอยเลยค่ะ
แอบดีใจลูกค้ารายนี้สั่งขนมจากนีประจำของนีด้วย
แล้วนีก็ลองเอาไอเดียเค้กแนวใหม่ๆ อย่าง Cream Tart
ส่งให้ลูกค้าดู แล้วบอกเขาบอกแบบนี้ก็สวยเก๋ดีนะคะ
ลูกค้าชอบ เลยสั่งให้ทำแบบนี้ในแบบตัวอักษรภาษาอังกฤษ "K"

วันนี้เลยอยากจะมาเข้ามาบันทึกการทำ 

Cream Tart Cake Letter "K"

Cream Tart มีตัวฐานหรือเบสที่เราเรียกว่า แป้งทาร์ต 
ซึ่งมีส่วนผสมจากแป้งอัลมอน แป้งเอนกประสงค์ เนย และน้ำตาลไอซิ่ง
ส่วนครีมที่จะใช้ในการตกแต่ง จะทำมาจาก มาสกาโพนชีส 
หรือจะใช้ครีมชีสก็ได้ วิปปิ้งครีม น้ำตาลไอซิ่ง วานิลลา

เดี๋ยวเรามาเริ่มทำกันเลยดีกว่านะค่ะ

เริ่มจากตัวฐานของเค้ก หรือ Tart กันก่อนเลย


วันนี้เราจะทำเป็นตัวอักษร "K" เตรียมหาแบบอักษร
ขนาดตามที่เราต้องการแล้วตัดเตรียมไว้เลยค่ะ


"ส่วนผสมของ Tart"

แป้งเอนกประสงค์ 2 1/4 ถ้วย
แป้งหรือผงอัลมอนด์ 1 ถ้วย
น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วย
เนยสด (ที่ยังเย็นๆอยู่นะคะ) 1 ถ้วย
ไข่สด 1 ฟอง
วานิลลาสกัดเข้มข้น 1 ชช.

นำเอาเนย กับน้ำตาลไอซิ่งผสมลงไปในโถ
ใช้เครื่องตีมือตีให้เข้ากันขณะที่เนยยังเย็นๆ

"เนยสดแช่เย็นกับน้ำตาลไอซิ่ง" 




ตีให้ได้เหมือนรูปด้านล่างนี้ แล้วหยุด เตรียมใส่ไข่และวานิลลาสกัดเข้มข้น





"ใส่ไข่และวานิลลาสกัดเข้มข้น"
ตีต่อให้เข้ากัน แล้วใส่ผงอัลมอนด์และแป้งเอนกประสงค์


"ใส่แป้งอัลมอนด์" 


"ใส่แป้งเอนกประสงค์"

ตีให้เข้ากัน แต่อย่าตีนาน เพราะเราไม่ต้องการให้
แบทเทินของแป้งทาร์ตเหลวจนมีน้ำมันจากเนยออกมา



จนได้เนื้อแป้งทาร์ตประมาณนี้
แล้วหยุดตีทันที ใช้ไม้พายกวาดแป้งปากโถผสมให้เข้ากัน


ตักแบ่งแป้งเป็นสองส่วน เพื่อความง่ายในการทำงาน
เพราะเราจะต้องทำ Tart  2 ชิ้น


"แบ่งแป้งแล้วห่อแป้งด้วยพลาสติกแร๊ฟอาหาร"



จนได้เนื้อแป้งสองชิ้นแบบนี้
แล้วนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 30 นาที


หลังจากที่เราแช่ตู้เย็นแล้ว
นำแป้งออกมาตั้งข้างนอกสักครู่ เพื่อให้มันคลายความเย็นออก
จะได้คลึงแป้งได้ง่ายขึ้น ก่อนคลึง นีจะเอาแป้งว่างทับบนแผ่นรองอบก่อน
แล้ววางกระดาษรองอบอีกที เพราะเราจะไม่เคลื่อนย้ายตัวแป้ง
นอกจากตัดส่วนที่ไม่ใช้ออกเท่านั้น การเอากระดาษไข
มาทับก่อนคลึงก็เพื่อที่จะสามารถทำงานง่ายขึ้น
โดยที่ไม้คลึงก็จะไม่ติดกับตัวแป้งและไม่ต้องโรยแป้งเพิ่มก่อนคลึง


"คลึงแป้งให้กว้างเท่ากับขนาดแบบตัวอักษรที่เราต้องการ"

หลังจากคลึงแป้งแล้ว ลองเอาแบบตัวอักษรมาทาบถ้าได้ขนาดพอดีก็หยุดคลึงเลยค่ะ
แล้วก็ตัดแป้งส่วนที่ไม่ใช่ออก เพื่อที่จะได้ได้ทาร์ตตามแบบที่เราวางไว้


"ทาบแบบบนแป้งทาร์ต"



"แต่งรูปทรงให้สวยงามก่อนทำไปอบ"


"ได้แบบทาร์ตตามที่ต้องการ"

ทำแบบนี้อีกชิ้น สำหรับแป้งทาร์ตอีกส่วน เราต้องการทาร์ตอักษร "K" สองอัน
นำแป้งทาร์ตเข้าอบที่ไฟ 180C ประมาณ 20-25 นาที แล้วแต่เตาอบของแต่ละครด้วยนะคะ






ก็จะได้แป้งทาร์ตที่สวยงามแบบนี้ ทาร์ตสูตรนี้เนื้อจะนิ่มร่วนนิดหน่อย
แต่จะให้ความรู้สึกชุ่มๆ ไม่แห้ง ไม่ฝืดติดคอ
เนื่องจากเราใช้ผงอัลมอนด์เป็นส่วนผสมในเนื้อทาร์ตนั้นเองจ้า
รสชาติจะดีด้วยนะค่ะ


"พักให้เย็นสนิท"

พักทาร์ตที่อบเสร็จแล้วให้เย็นสนิท เพื่อเตรียมรอการตกแต่งต่อไปเลยจ้า

ก่อนอื่นเราต้องมาทำครีมกันก่อน
ครีมนี้เราใช้มากาโพนชีส หรือจะใช้ครีมชีสก็ได้

มาสกาโพนชีสหรือครีมชีส 250 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 2/3 ถ้วย
วานิลลาสกัด 1 ชช.
วิปปิ้งครีม  1 1/4 ถ้วย

นำชีสออกมาให้คลายความเย็นก่อน บีบหรือใช้ตระกร้อมือ หรือจะเครื่องตีมือก็ได้นะ
แล้วใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไป ผสมให้เข้ากัน

"ชีสที่คลายความเย็นแล้วจะบีบง่ายมาก"


"ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไป"


"ใส่วานิลลาสกัดเข้มข้น"


"ผสมให้เข้ากัน"

นำวิปครีมที่เย็นจัดมาตีให้ตั้งยอด
วิปครีมที่เย็นจัดจะทำให้ตีแล้วขึ้นฟูง่ายกว่ามากๆ
เพราะฉะนั้นก่อนตี นำวิปครีมไปแช่ช่องฟรีซสัก 10 นาทีก่อนนะคะ


"ตีวิปครีม" 

เสร็จแล้ว ก็เอาวิปครีมลงไปผสมกับครีมชีสที่เราผสมแล้วก่อนหน้านี้
ผสมให้เข้ากัน ก็สามารถเอาไปตกแต่งขนมได้แล้วคะ




"เนื้อครีมที่เราต้องการ"


ในการตกแต่ง อยู่ที่เราเลย บางครั้งเราจะทำเป็นธีม เช่น ธีมชมพูสดใสๆด้วยดอกไม้
และผลไม้สดอย่างสตรอเบอร์รี่ หรือ ผลเบอร์รี่ต่างๆที่เราสามารถหามาได้
หรือจะตกแต่งแนวชอคโกแลค สายชอคอาจจะปลื้มแนวนี้

แต่วันนี้ เราจะมาแนะนำการตกแต่งธีมสีชมพู
ด้วยดอกคาเนชั่นสีชมพู มาการองสีชมพูและสตรอเบอร์รี่สด

"ของตกแต่งพร้อม"






 "บีบครีมลงไปบนตัวทาร์ต"




แล้วนำทาร์ตอีกแผ่นมาประกอบแล้วบีบครีมให้ทั่วทั้งแผ่น






เสร็จแล้วก็เริ่มตกแต่งเค้กตามที่เราได้ออกแบบไว้เลยจ้า







"เสร็จแล้ว"


" Cream Tart Cake (Alphabet Letter "K")"


เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ใครสนใจอยากลองทำ ก็สามารถลองกันได้เลยนะค่ะ
เดี๋ยวนีจะแปะคลิปที่นีทำลง Youtube ให้ดู






แล้วเจอกันเอนทรี่หน้าค๊าาา


Friday, January 3, 2020

~ชีวิตของ GA’s Flight Operation ที่หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้~

6 Dec 2019
Time 10.15LT
Temp 24C

ช่วงนี้อากาศที่กรุงเทพฯ ดีมากจริงๆ นีเองก็ไม่ได้เข้ามาเขียนบล็อคนานมากๆ ชีวิตตอนนี้ก็เรียบง่าย มีสุขบ้าง ทุกข์ก็มีเหมือนคนทั่วไป แต่ชีวิตตอนนี้อยู่ในระหว่างการตัดสินใจทำในสิ่งที่ตั้งใจจริงจัง เมื่องานประจำเริ่มไม่ตอบโจทย์ แต่นีเองก็ไม่ได้มีรายได้ทางเดียว มีทำขนมขายและทำเครื่องสำอางแบรนด์ตัวเองด้วย มันเลยทำให้นีมีอะไรแปลกให้ได้ทำที่แตกต่างจากงานประจำที่ทำอยู่




ใครที่ติดตามในเฟสบุ๊คของนี อาจจะสงสัยว่านีไม่ได้ทำงานประจำแล้วหรือ? นีไม่ค่อยได้อัพเดทเรื่องงานประจำ แต่จะอัพเดทรูปภาพนีกับลูกชายและขนมที่นีทำออกมาขายเสียมากกว่า แล้วก็อัพเดทลิปสติก อีกหนึ่งโปรดักช์ที่นีทำออกมาขายอยู่บ่อยๆ

บ่อยครั้งมีน้องๆ เพื่อนๆ ทางเฟสบุ๊คที่นีไม่ได้รู้จักเข้ามาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับงานประจำที่นีทำ น้องบางคนอยากรู้ถึงแนวทางของการปฏิบัติงานด้านนี้ว่าต้องทำอะไรบ้าง และถ้าสนใจงานด้านนี้จริงๆ จะต้องเรียนอะไร จบอะไร



วันนี้นีมีโอกาสเลยอยากเข้ามาให้เป็นข้อมูล ทั้งข้อมูลของงานด้านนี้ ต้องยอมรับนะว่างานทุกๆงานมันมีทั้งดีและไม่ดีกันทั้งนั้น อยู่ที่เราจะรับมันได้และอยู่กับมันได้หรือเปล่า

อย่างที่ทุกคนพอจะรู้อยู่แล้วว่านีทำหน้าที่เป็น Flight Operation Officer / Flight Dispatcher หน้าที่หลักๆ ของ Flight Operation / Flight Dispatcher ต้องมีใบอนุญาตให้ทำหน้าที่ในตำแหน่ง ต้องวางแผนเส้นทางการบิน คำนวนน้ำมันที่ต้องใช้ คำนวนน้ำหนักของเครื่องเพื่อให้ปลอดภัยที่สุดแล้ว ยังต้องจัดเตรียมเอกสารแผนการบิน พยากรณ์อากาศต่างๆ ประกาศนักบินสำหรับการบินให้นักบิน ติดต่อวิทยุสื่อสารกับนักบิน Air to Ground communication เพื่อประสานงานเรื่องต่างๆ แค่นี้ก็ดูวุ่นวายแล้วใช่มั้ย? แต่ Flight Operation / Flight Dispatcher ยังต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันกับนักบินที่ทำการบิน หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอีกด้วย ทำให้ Flight Operation / Flgiht Dispatcher  มีอำนาจในการยกเลิก หรือเลื่อนเที่ยวบิน หากพิจารณาแล้วว่าเที่ยวบินนั้นอาจจะไม่ปลอดภัย และยังต้องร่วมตรวจสอบเส้นทางบินกับนักบินด้วยอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในความเป็นจริงแล้วอาชีพนี้มีความเครียดค่อนข้างสูง เครียดมากเครียดน้อยจะขึ้นอยู่กับบริษัทที่ทำงานว่ามีเส้นทางการบินแบบไหน



ในส่วนของ GA หรือ General Aviation หรือที่เรียกง่ายๆว่าเป็นส่วนของเครื่องบินเช่าเหมาลำส่วนบุคคลนั้นเอง GA จะมีลักษณะการทำงานไม่ต่างจาก Commercial Airlines ตามที่บอกไว้ข้างต้น แต่ในส่วนของ GA จะมีความยากลำบากตรงที่ตารางการบินไม่แน่นอน ไม่สามารถกะเกณฑ์อะไรได้เลย และเป็นเที่ยวบินที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนโดยที่ไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้าเหมือน Commercial Airlines

ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่นี้ใน GA ส่วนมากแล้วจะมีบุคคลที่ต้องมีความกระตือรือร้นมาก อัพเดทข่าวสารทุกเวลา วันหยุดไม่แน่นอนและชัดเจน ยิ่งเพิ่มภาวะความเครียดมากขึ้นอีกด้วย

นีจะเล่าถึงในส่วนของที่นีทำอยู่ นีทำทั้ง Flight Operation และ Flight Dispatcher และทำในส่วนของ Ground Handling Service ทำครอบคลุมงานทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ แม้กระทั้งคำนวนค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น มิหน่ำซ้ำนีกลายเป็น sale กลายๆๆ ทำใบเสนอราคา วิเคราะห์ราคาขาย ดูราคาขอบหน่วยงานต่างๆ ให้เหมาะสม และเราต้องทำราคาที่สามารถสู้กับคู่แข่งรายอื่นๆ ได้


ตลอดที่ทำอาชีพนี้เกือบ 15 ปี นีจำได้ว่าสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการทำงานคือ อุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร ในสมัยนั้นการรับอีเมล์ทางมือถือได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ทุกอย่างเป็นความเคยชิน การปิดมือถือเป็นเรื่องต้องห้ามเลยก็ว่าได้ แม้จะเป็นวันหยุดเราก็ตาม

เริ่มแรกของการเริ่มปฏิบัติงาน เมื่อเราได้รับ work order ว่าจะต้องทำงานไฟล์ทนึง เราต้องเริ่มเช็คสนามบินที่เขาจะไปว่ามี curfew มั้ย? แล้วดำเนินการขออนุญาตลงจอดทั้ง Slot parking และ Landing Permission ทั้งต้นทางและปลายทาง ในระหว่างที่เรารอใบอนุญาตต่างๆเหล่านี้ เราต้องทำเรื่องของอนุญาตบินข้ามน่านฟ้าในแต่ละประเทศที่เราจะต้องบินผ่านไปด้วย ซึ่งในขั้นตอนนี้ถ้าตารางการบินไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เราก็ทำงานง่าย แต่มันไม่มีใน GA ที่จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทุกคนมีประสบการณ์จากการทำงานที่มีเวลาจำกัดมากๆแล้ว ทุกคนต้องเจอกับเรื่องการเปลี่ยนแปลงของตารางการบิน ซึ่งเป็นเรื่องที่คนทำงานไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยจริงๆ


จะมีอีกกระบวนการนึงที่คนทำงานในแผนกนี้ต้องฝึกคือ ทักษะการเจรจากับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อย่าใช้คำว่าเจรจาเลย ใช้คำว่าโต้เถียงจะดีกว่า อิอิ ทำไมต้องโต้เถียง? ก็เพราะกฎข้อบังคับต่างๆ ดูจะขัดแย้งไปเสียหมด ทำงานยากมาก จนทำให้คนภายนอกมองคนที่ทำงานในแผนกนี้เป็นคนที่ก้าวร้าวมาก เถียงเก่ง ไม่สุภาพ พูดจาไม่เพราะ มันก็อาจจะจริงในส่วนนึง แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นทั้งหมดหรอกนะ คนที่มองว่าคนในแผนกนี้เป็นแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่เขายังไม่รู้ว่า คนเหล่านี้เขาต้องเจอกับปัญหาหลากหลายรอบด้านมากๆ ต้องคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทุกๆครั้ง ใช่ว่าเราไม่มีการเตรียมตัว เตรียมพร้อมกับปัญหา อันที่จริงพวกเราโครตจะรอบคอบมากๆ แต่ก็ไม่วายจะต้องเจอปัญหาก็ต้องเกิดขึ้นเพื่อให้เราแก้ไขอยู่ดี ก็อย่างที่บอก GA มันสามารถเสกทุกปัญหาให้เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อจริงๆ

แหละเมื่อคนทำงานเหล่านี้เจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆเข้า ก็ไม่แปลกที่เขาจะต้องตั้งรับ รับมือสู้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นและเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว และตามแก้ปัญหาให้มันผ่านไปได้ จริงมั้ย? ทำให้ดูเหมือนเป็นคนก้าวร้าวไปซะงั้น!

การทำงานของฝ่ายปฏิบัติการบิน ต้องมีคนสแตนบายตลอด เราทำงานเป็นสเกต มีวันหยุดไม่ตรงกับคนทำงานคนอื่นๆ โอกาสมีโอทีสูงมาก เนื่องจากเพราะเป็น GA นี่แหละ ถามว่า พวกเราไม่อยากมีเวลาว่างเหมือนคนอื่นๆหรอกหรอ? อยากสิ อยากพักมากๆ ด้วย โอทงโอที ก็ไม่ได้อยากได้อะไรหรอกนะ แต่มันเหมือนเป็นการบังคับว่าต้องทำให้จบ เมื่อมีโอทีเกิดขึ้น ก็จะเป็นประเด็นระหว่างแผนกเรากับแผนกอื่นๆ

เราจะมีวันหยุดที่หยุดไม่ตรงกับคนทำงานทั่วไป แต่ก็จะมีการได้รับชดเชย ซึ่งอาจจะเป็นโอทีวันหยุด หรือเป็นการให้วันหยุดชดเชยไป ตามแต่กฎระเบียบของบริษัท บริษัทไหนให้ใจพนักงานมากๆ พนักงานก็เครียดน้อยหน่อย บริษัทไหนไม่ใจกับพนักงานเลย พนักงานคงมีประสิทธิภาพในการทำงานลดน้อยลง เพราะคงหมดใจ ซึ่งคนในแผนกอื่นก็ไม่เข้าใจอีก และมองว่าแผนกนี้โครตสบายเลยได้เงินและวันหยุดเพิ่มอีก ไม่ยุติธรรมเอาสะเลย

สิ่งที่เขามองมันเห็นแค่ด้านเดียว ด้านที่ฝ่ายฏิบัติการบินได้ แล้วด้านที่พวกเขาต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ล่ะเคยมองเห็นบ้างมั้ย? รู้หรือไม่ว่าพวกเขาทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด เจอปัญหาปะเดปะดังเข้ามา ที่ต้องพร้อมรับมือกับมัน คนที่ไม่เคยทำงานด้านนี้ ถ้าให้มาทำเอง เราเชื่อว่า ถ้าเขามาทำ เขาต้องขอเปลี่ยนไปทำแผนกอื่นแน่นอน หรือไม่ก็ลาออกก่อนแน่ๆ เราบอกไม่ได้ว่าต้องเป็นคนแบบไหนกันที่จะสามารถทำงานแบบนี้ได้นานๆ เราแค่รู้ว่า มันต้องมีใจให้กับงานจริงๆ มองเห็นถึงปัญหาได้อย่างทะลุ คนแบบนี้จะอยู่ได้นาน และเขาจะรู้สึกสนุกกับสิ่งที่เขาต้องเจออะไรแปลกใหม่ตลอดเวลา ปัญหาต่างๆจะสอนให้พวกเขาแกร่งและโตขึ้นมากๆ อันที่จริงการทำงานในทุกๆสายอาชีพก็ต้องมีความตั้งใจจริงกับงานที่ทำมากอยู่แล้ว เพราะทุกๆงานย่อมมีความยากลำบากเป็นธรรมดา แต่ที่นีกล้าบอกแบบนี้ได้ เพราะนีเองก็ทำงานด้านอื่นๆมาหลายด้านเช่นกัน นีเคยทำจัดซื้อ เคยทำเลขาฯ เคยเป็นผู้ช่วยฝ่ายขาย ก็ไม่เครียดเท่างานฝ่ายปฏิบัติการบินเลยจริงๆ ไม่แปลกใจที่หลายๆคนจะบอกว่าอาชีพนี้คืออาชีพปิดทองหลังพระ ทำได้ดีน้อยคนจะเห็นคุณค่า แต่ถ้าเมื่อไหรคุณทำพลาด ความหายนะมาเยือนแน่นอน

บล๊อกนี้อาจจะแปลกแตกต่างจากเรื่องที่เคยเขียนมา แต่เป็นเพราะมีคนอยากรู้จริงๆว่า งานที่นีทำมันเป็นยังไง เลยรวบรวมเขียนออกมา นีไม่อวยงานตัวเองว่ามันดีเริ่ดนะ แต่นีเขียนจากสิ่งที่นีทำและได้เจอจริงๆ ตลอด 15 ปีที่ทำงานนี้ นีได้รับประโยขน์มากมายจากอาชีพนี้ และได้รับความทุกข์ใจไม่น้อยเช่นกัน

จนตอนนี้เป้าหมายชีวิตของนีเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว เหตุผลหลักๆที่ต้องเปลี่ยนก็เพราะลูก นีทำงานกับลูกให้มากขึ้น เพราะเขาโตขึ้นมากแล้วจริงๆ

นีร่างบล็อกนี้ตั้งแต่ต้นเดือนธันวา 62 เพิ่งจะเขียนเสร็จเอาวันที่ 3 ม.ค. 63 บางทีอยากเขียนอะไรตั้งมากมาย แต่เขียนไม่ออกจริงๆ

เริ่มปีใหม่ 2563 ทุกอย่างคงต้องเปลี่ยนแปลงไปใหม่หมด จะพยายามมีความสุขให้มากๆ และทุกข์ให้น้อยลง ชีวิตคงจะดีกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน อินชาอัลลอฮฺ

มีความสุขในทุกๆวันนะค่ะ

3 ม.ค. 63 เวลา 15:35น.