iTime

Saturday, March 17, 2012

Hard work, Do it by heart @ ใช้ใจเท่านั้น งานนี้ @

17 Mar 2012
Time 14:35LT



จากหน้าที่แล้ว ทิ้งท้ายว่าจะเล่าเรื่องงาน
ตอนแรกว่าจะกลับมาเขียนให้ต่อเนื่อง
แต่ก็ยุ่งเหลือเกิ้น มาทำงานเช้ามากๆ เกือบทุกวัน
แถมบางวันฟลุคเจองานที่ต้องทำโอทีตอนดึก เล่นเอาวงจรชีวิตเปลี่ยนไปเลย

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2555 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

มีสเก็ตได้ไปทำงานที่สุวรรณภูมิ
ไฟล์ทนี้งานเบาๆ สบายๆ แค่เครื่องแวะมาเติมน้ำมัน แล้วบินต่อเลย
ที่ไม่สบายเพราะแดดร้อนมากๆ ช่วงนี้เมื่องไทยอากาศร้อนจริงๆ

แบบเครื่อง : Embraer Phenom 300





ไปทำไฟล์ทกับน้องมิต ไปถึงที่สุวรรณประมาณ 7 เช้า
ดำเนินการทำบัตรเข้าเพื่อไปใน Ramp เสร็จแล้วก็หาอะไรกินรองท้องก่อนไปทำงาน

กำหนดของเครื่องจะมาถึงประมาณเก้าโมงกว่าๆ เครื่องไม่ดีเลย์
นักบินลงมาก็ยิ้มแย้ม เพิ่งรู้มาว่านักบินเป็นนักบินคู่หูของทอม ครูซด้วย
เราเพิ่งรู้เมื่อตอนเครื่องออกไปแล้ว ไม่งั้นจะฝากขอลายเซนต์ ทอมครูซซะหน่อย






เติมน้ำมันเสร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว
จะช้าก็ตรงที่นักบินไปเข้าห้องน้ำที่ Ternimal นี่แหละ
แถมโดยรถบริษัท ที่เราใช้บริการที่สุวรรณฯ ทิ้งน้องมิตกับลูกเรือซะนี่!

ก่อนที่จะปิดประตูเครื่อง เราต้องให้นักบินให้คะแนนการบริการงานของเรา
นักบินน่ารักมากๆ ให้คะแนนมาแบบไม่อั้นคะแนนเลย
ได้คะแนนแบบไม่อั้น เพราเราบริการเขาแบบไม่อั้นเช่นกันหน่า อิอิอิ


แถมหลังจากวันนั้นหนึ่งวัน ทางเมืองนอกก็ส่งเมล์ชมเชยว่าไฟล์ทวันนั้น
เราให้บริการเครื่องเขาได้ดีเยี่ยมมาก เขาประทับใจ เขาส่งให้เจ้านายใหญ่เราด้วยนะ
ไม่ได้ส่งให้แผนกเราโดยตรง แล้วเจ้านายใหญ่เราส่งเมล์ชมเชยการทำงานของทีม Ops เรา


ภาระกิจบินส่ง Cargo ของ US Embassy เริ่ม 10 - 16 Mar 2012






ไฟล์ทนี้ก็ได้รับการชมเชยว่า เราเป็น The Best Handler ที่เขาเคยใช้มาทั้งหมดทั่วโลก

ฟังดูเหมือนเวอร์ไปเนอะ น่าประทับใจมั้ย?




ก็น่าประทับใจอยู่นะ ที่ทำงานดีแล้วมีคนเห็น ได้รับคำชมเชยบ้าง
อย่างน้อย พวกเราไม่เสียกำลังใจ แต่พวกเรากลับมีแรงที่จะสู่งานต่อไป

ตั้งแต่ต้นเดือนมีนา จนวันนี้ กลางเดือนเข้าไปแล้ว ยอมรับว่าเหนื่อยมาก
เรามีบ่นบ้างในเฟส ซึ่งเฟสเป็นพื้นที่ของเราเอง แต่ก็ทำให้เกิดเรื่องจนได้

คนทำงานจริงจัง หวั่นไหวบาง เหนื่อยบ้าง บ่นบ้าง ไม่แปลกใช่มั้ย?
แต่ถ้าไม่ได้ทำงาน แล้วพูดมาก เป็นแต่พูด คิดไม่เป็น ดันมีคนยอมรับได้

เพลียหัวใจเป็นที่สุดค่ะ



Sunday, March 4, 2012

ทำบุญพ่อ 40 วัน + Outting + Pattaya without Dad

4 Mar 2012
Time 14:41LT
At Hangar 4426
DMK Airport



งานทำบุญ 40 วันของพ่อ & งานเมาลิด
หลังจากที่ผ่านพ้นช่วงเวลาที่เศร้าที่สุดในชีวิต ชีวิตเราก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป
หน้าที่ของตัวเองก็ต้องกลับมาทำให้ดีที่สุด ใช่ว่าจะลืมเรื่องพ่อ
แต่เรากลับจำสิ่งที่ผ่านของพ่อตลอดเวลา คิดถึงพ่อที่สุด แม่เองก็ยังเสียใจอยู่
วันก่อนเราพาแม่ไปเที่ยวพัทยา นั่งริมชายหาด แม่ก็น้ำตาไหล บอกว่าพ่อชอบนั่งริมหาด
เก้าอี้ผ้าใบ สั่งของกินไปเรื่อย นี่พ่อจากเราไปจะ 3 เดือนแล้วหรอ เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ

เมื่อตอนต้นเดือนกุมภา เรากลับนราฯ เพื่อทำบุญ 40 วันที่พ่อจากไป
วันนั้นแขกมาบ้านเยอะมาก เกือบ 200 คนได้ พวกเราเหนื่อยกันมาก
แต่ก็ดีใจ ภูมิใจที่พ่อเราเป็นที่รักและเคารพของคนในหมู่บ้าน
ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และคนที่รู้จัก

เสร็จสิ้นจากงานทำบุญให้พ่อ เราสามคนพ่อแม่ลูก และแม่ของเราก็เดินทางมากรุงเทพ
แม่เรายังคงเศร้า แต่การที่แม่ได้เปลี่ยนมาอยู่ที่ใหม่ๆ อาจจะทำให้จิตใจของแม่ดีขึ้นได้บ้าง
แต่พอมากรุงเทพฯ แม่ยังคงจำภาพพ่อ ไปที่ที่เคยมีพ่อไปด้วย แม่ก็น้ำตาไหล
พูดอยู่ตลอดว่า พ่อเคยมาที่นี่ ชอบที่นี่ ชอบกินอาหารที่นี่ ถ้าพ่อได้มาด้วยก็คงจะดี
ทำเอาเราแอบน้ำตาไหลทุกครั้ง


เมื่อ 18-19 กุมภาพันธ์ 2012
ณ ระยอง

ทางบริษัทได้จัด Outting ที่ระยอง
เราตามไปช่วงเย็น เพราะเช้าเรามีไฟล์ทที่สุวรรณภูมิ ไฟล์ทนี้เป็นไฟล์ทวีไอพี
เราไปทำกับมิตซี่ ไฟล์ทค่อยข้างยุ่งนิดหน่อย แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี
เสร็จจากไฟล์ทประมาณบ่ายโมงนิดๆ

รถก็มารับเรากับมิตซี่เดินทางไประยองต่อเลย
บนรถก็จะมีมิคาอิลพ่ออลันและแม่ของเราอยู่กันพร้อมหน้า
ไปถึงระยองกันประมาณสี่โมงเย็นกว่าแล้ว คนอื่นๆ ที่มากันแต่เช้า
ต่างก็ทำกิจกรรมกันสนุกสนาน เราไปถึงก็เตรียมแต่งตัวเข้างานเลี้ยงตอนกลางคืน
มีจับรางวัลต่างๆ ที่บริษัทฯ ได้เตรียมไว้ด้วย








ก่อนจะเข้าร่วมงาน เรายังพอมีเวลาพามิอิลไปเล่นน้ำทะเล
มิคาอิลสนุกใหญ่เลย โดนพี่ๆ แกล้งถมทรายที่ตัวเต็มไปหมด แต่มิคาอิลไม่ร้องนะ





แม่ไปร่วมงานเลี้ยงกลางคืน ลุ้นว่าครอบครัวเราจะได้อะไรติดมือกลับบ้าน






ปรากฏว่างานนี้ครอบครัวเราได้รางวัลเยอะแยะเลย
เริ่มต้นจากเราได้เครื่องสำอาง Origin แต่เป็นของผู้ชาย
พ่ออลันก็ได้ไปโดยปริยาย
ส่วนพ่ออลันได้กระติกน้ำร้อนดิจิตอล

แต่ของรางวัลยังไม่จบแค่นี้ เพราะมีรางวัลใหญ่รออยู่อีก

จับรางวัลจนเหลือสองรางวัลใหญ่สุดท้าย คือ
รางวัลที่สองคือ ทีวี LCD จอ 32" และรางวัลที่หนึ่งเป็นทีวี LCD จอ 42"
รุ่นใหม่ ล่าสุด

เจ้านายเป็นคนจับรางวัลใหญ่นี้ ปรากฏว่ารางวัลที่สองเป็นของ....แต่น แต้น แต๊น

คุณอลัน ..... ไชโย ชื่อสามีเราเอง

ลืมตัวกระโดดกอดสามีและลูกสุดฤทธิ์
มิคาอิลตกใจแปบนึง แล้วก็ยิ้มหัวเราะชอบใจ
เหมือนจะรู้ว่าตัวเองจะได้ทีวีมาดูการ์ตูนแล้ว

รางวัลที่หนึ่งเป็นของพี่ที่ทำงานอื่นคน
ก็สนุกสนานกันไป ได้รางวัลกลับบ้านติดมือไปด้วย อิอิอิ

วันเดินทางกลับ มีไปดูปลาที่ Aquarium Rayong
มิคาอิลเลยได้ดูปลาสวยๆ ด้วย


ก่อนไปดูปลา




















ทีวีของรางวัลที่ได้มา

จบทริปนี้ อีกนึงอาทิตย์ เราก็จะไปเยี่ยมเพื่อนของพ่อที่พัทยา


25-26 กุมภาพันธ์ 2012

หลังจากที่กลับมาจากระยอง แม่ได้รับโทรศัพท์จากน้านกแฟนเพื่อนพ่อ
ว่าลุงนออาการทรุดลง  ลุงนอเป็นเพื่อนกับพ่อตั้งแต่สมัยอยู่เยอรมัน
กลับมาเมืองไทยก็ไปมาหาสู่กันตลอด จนเมื่อกลางปีที่แล้ว
ลุงนอไม่สบาย แขนหัก แต่ไม่หายสักทีเลยโดนตรวจอย่างละเอียด
หมอตรวจเจอว่าลุงนอเป็นมะเร็งกระดูกระยะสุดท้าย
ซึ่งตอนนั้น พ่อเราก็ยังไปเยี่ยมเขา
ลุงนอรู้ข่าวว่าพ่อเราเสีย เขาร้องไห้โฮเลย เขาบอกว่า
คนที่ควรจะไปก่อนคือเขา ไม่ใช่พ่อของเรา
อะไรๆ ก็ไม่แน่นอนจริงๆ ชีวิตมนุษย์

หลังจากที่แม่ได้รับโทรศัพท์ แม่เลยชวนเราไปเยี่ยมเขาที่พัทยา
ไปถึงที่บ้าน ลุงนอมองหน้าเรา ลูกเรา แม่เรา เขาก็ร้องไห้
แม่ และเราก็ร้องไห้ เพราะนึกถึง และคิดถึงพ่อมาก

เราพูดถึงเรื่องพ่อ และถามทุกข์สุขกัน วันนั้นเหมือนเราได้อยู่กับครอบครัว
เพราะลุงนอก็เหมือนพ่อของเราคนนึง เห็นหน้าเขาแล้วก็คิดถึงพ่อมากๆ


on the way to Pattaya





หลังจากที่ลากลับจากบ้านลุงนอ
เราก็เดินทางไปพักที่โรงแรมที่เราได้จองไว้ในเว็ป


ห้องพักที่พัทยา มิคาอิลจะหักคอหงส์ซะแล้ววว

 


หักคอได้แล้ว ทำหน้าซะใจ!




พามิคาอิลนั่งริมหาด




หมดแรงสุดๆ

 



พักที่พัทยาแค่คืนเดียว ช่วงบ่ายๆ เราก็ขับรถกลับกรุงเทพฯ
พาแม่ไปเที่ยวครั้งนี้ ถึงแม้ว่าจะเห็นน้ำตาของแม่หลายครั้ง
เพราะนึกถึงพ่อ เห็นภาพพ่อ เวลาไปไหนมาไหน ก็จะมีพ่อไปด้วยทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้ไม่มีพ่อแล้ว แต่อย่างน้อยๆ ได้พาแม่ไปพักผ่อนบ้าง
จิตใจแม่คงจะดีขึ้น จะได้มีแรงดูมิคาอิลช่วงกลางวันเวลาเราไปทำงาน


คราวหน้าจะกลับมาเล่าเรื่องงานนะค่ะ...